ครั้งหนึ่งในชีวิต… เราคือผู้พิชิตภูเขาไฟฟูจิ

จากแค่ฝันว่าสักวันจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ปีน ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) อันยิ่งใหญ่ของดินแดนอาทิตย์อุทัยกับเขาบ้าง… เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบไปเที่ยวตามป่าตามเขา ชอบท่องเที่ยวแนวผจญภัยนอนกางเต็นท์บ้าง นอนบ้านอุทยานบ้าง ในขณะนั้น คิดว่าทริปปีนเขาที่ยากที่สุดในชีวิตของเราแล้วก็คือ “ภูกระดึง”ค่ะ

เที่ยวญี่ปุ่น ภาพภูเขาไฟฟูจิจากมุมทะเลสาบ Kawaguchiko
ภูเขาไฟฟูจิจากมุมทะเลสาบ Kawaguchiko ค่ะ

และแล้วฝันก็กลายเป็นจริงขึ้นมา เนื่องจากเพื่อนที่ถูกวางตัวไว้ให้ไปปีนภูเขาไฟฟูจิ ดันป่วยกะทันหัน ดังนั้น หวยจึงมาออกที่เรา เย้! (ขอบคุณสวรรค์) พอหัวหน้ามาถาม เราตอบ ตกลงไป 1,000,000% ทันทีโดยไม่ต้องคิด อิอิ ซึ่งในที่นี้เราจะต้องไปปีนร่วมกับเพื่อนอีกคนค่ะ เป็นผู้หญิงทั้งคู่

แต่เรื่องของเรื่องคือ เรามีเวลาเตรียมตัวกันแค่สองอาทิตย์เท่านั้น! ก่อนอื่นเราเริ่มหาข้อมูลจากรีวิวบนอินเทอร์เน็ตทั่วไป อ่านข้อมูลในรีวิวต่างๆ ถึงความยากง่ายในการปีนภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งก็มีข้อมูลให้เราได้ศึกษาเยอะแยะมากมาย มีทั้งเรื่องการเตรียมตัว การเตรียมอุปกรณ์ในการปีนเขา

อีกเรื่องที่สำคัญมากคือ การร่างกายก่อนเลยค่ะ ด้วยความที่เรามีเวลากันแค่สองอาทิตย์ในการเตรียมตัว อย่างน้อยแนะนำให้วอร์มร่างกายให้พร้อมไว้เท่าที่จะทำได้ เช่น วิ่งจ็อกกิ้งสักวันละ 2-3 กม. หรือเดินรอบสวนจตุจักรหรือสวนรถไฟก็ได้ค่ะ เพื่อฝึกการหายใจ และกล้ามเนื้อส่วนขาให้แข็งแรง สำหรับเรากับเพื่อนไม่มีเวลามากนัก ก็อาศัยฝึกขึ้นลงบันไดในตึกออฟฟิศจากชั้น 9 ไปถึงชั้น 39 – 40 ทุกวัน ขอบอกว่าช่วยได้จริงๆ นะคะ

เที่ยวญี่ปุ่น การเตรียมตัว ปีนเขา Fuji
ตัวอย่างการแต่งกาย และอุปกรณ์สำหรับพกพาขึ้นไปปีนภูเขาไฟฟูจิ

ส่วนอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเตรียมตัวในการปีนเขา ใครอยากเที่ยวญี่ปุ่น พิชิตภูเขาไฟฟูจิ ก็เตรียมตามนี้เลยค่ะ ขอย้ำค่ะจำเป็นจริงๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะแบกไปเป็นภาระ ^_^

อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการปีนภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji)

รองเท้าเดินป่า (Trail Running Shoes) จำเป็นมากค่ะ ไม่แนะนำให้ใส่ผ้าใบธรรมดา เพราะเส้นทางการปีนเขาจะเป็นโขดหิน ก้อนหิน และก้อนกรวด
เสื้อกันฝน ที่สวมใส่ได้ง่าย และหนาพอที่จะกันลมกันฝนได้ และมีฮูดสำหรับคลุมหัวด้วย
– เป้ที่มีน้ำหนักเบา และมีความทน
เสื้อผ้ากันหนาวกันลม เสื้อผ้าข้างในที่สามารถระบายอากาศได้ดี และแห้งไว
กางเกง แนะนำใส่กางเกงผ้า กางเกงผ้าร่ม หรือกางเกงสำหรับปีนเขาไปเลยค่ะ ไม่แนะนำใส่กางเกงยีนเพราะอาจจะอึดอัดได้ ควรเตรียมเลคกิ้งหรือลองจอนใส่ซับในไว้กันหนาวก็ดีค่ะ
ไฟฉาย ใช้ได้ทั้งไฟฉายมือ และไฟฉายคาดหัว
น้ำดื่ม อาจจะซื้อจากตู้กดขนาด 500 มล. พกติดเป้สัก 2 ขวดค่ะ เพราะด้านบนน้ำดื่มแพงกว่าปกติประมาณ 3 เท่า
ขนมขบเคี้ยว ที่มีรสหวาน หรือให้พลังงาน เช่น เยลลี่ ช็อกโกแลต
– ถุงขยะ สำหรับใส่ขยะ เพื่อนำกลับลงมาทิ้งด้านล่าง
– เงิน สำหรับซื้อขนม ซื้อน้ำ ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด และเหรียญใช้เข้าห้องน้ำระหว่างทาง
– ยาสามัญทั่วไป ยาสำหรับโรคประจำตัว
– ออกซิเจนกระป๋อง เป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อขึ้นไปด้านบนเขาแล้ว เราจะเป็นโรคแพ้ความสูงหรือไม่
– ไม้เท้าค้ำเดิน สามารถหาซื้อตรงสเตชั่นที่ 5 ได้
– อื่นๆ เช่น หมวกกันแดด และแผนที่

เมื่อเตรียมอุปกรณ์และร่างกายพร้อมแล้ว อีกอย่างที่ต้องเตรียมคือไปคือ ใจ ค่ะ ^_^ ส่วนเราหรอคะ..ถ้าใช้ใจเดินขึ้นคงขึ้นไปถึงเร็วมาก อิอิ ^^ งั้นเราเริ่มไปพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิกันเลยดีกว่า…

เพื่อความสะดวกในการเดินทางในญี่ปุ่น เราเลือกพักที่โรงแรมในตัวเมือง Fuji Yoshida จังหวัดยามานะชิ (Yamanashi) ซึ่งเป็นต้นทางของเส้นทาง Yoshida Trail ที่จะพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิค่ะ

เส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji)

เส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) มี 4 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่

– Yoshida Trail เริ่มต้นที่จังหวัดยามานะชิ (Yamanashi)
– Subashiri Trail เริ่มต้นที่จังหวัดชิซูโอะกะ (Shizuoka)
– Gotemba Trail เริ่มต้นที่จังหวัดชิซูโอะกะ (Shizuoka)
– Fujinomiya Trail เริ่มต้นที่จังหวัดชิซูโอะกะ (Shizuoka)

ซึ่งคราวนี้เราพักที่จังหวัด Yamanashi จึงเลือกเส้นทาง Yoshida Trail ที่จุดเริ่มต้นอยู่ใกล้เราที่สุดนั่นเองค่ะ

เที่ยวญี่ปุ่น หน้าสถานี Fujisan เริ่มต้นเส้นทางพิชิตภูเขาไฟฟูจิ
หน้าสถานี Fujisan จังหวัดยามานะชิ (Yamanashi)

ตอนเช้าเรากับเพื่อนไปขึ้นรถบัสจากหน้า สถานีรถไฟ Fujisan ชานชาลาที่ 5 โดยรถจะออกทุกๆ ชั่วโมง เราทันเที่ยวเวลา 9:40 น. ค่ารถบัสจากสถานีรถไฟ Fujisan ไปถึง Station 5 ของภูเขาไฟฟูจิ คนละ 1,540 เยน ใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาทีได้

การขึ้นภูเขาไฟฟูจิจะแบ่งออกเป็น Station ต่างๆ เริ่มจาก Station 1 อยู่ที่ตีนเขา ยิ่งสูงขึ้น เลขชั้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้น จนถึง Station 10 ที่ยอดเขาค่ะ ซึ่งถนนลาดยางที่รถยนต์เข้าถึงได้จะมาสุดที่ Station 5 ช่วยทุ่นแรงไปได้ถึงครึ่งทาง การนั่งรถมาเริ่มที่ Station 5 เช่นนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมของการปีนภูเขาไฟฟูจิค่ะ ^_^

รถบัสสำหรับไปยัง Station 5 ของภูเขาไฟฟูจิ ขึ้นที่จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 5
รถบัสจอดชานชาลาที่ 5 หน้าสถานีรถไฟ Fujisan ค่ะ มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อยู่เพียบ
รถบัสสำหรับไปยัง Station 5 ของภูเขาไฟฟูจิ แวะรับนักท่องเที่ยวที่สถานี Kawakuchigo
รถบัสแวะรับนักท่องเที่ยวที่สถานี Kawakuchigo ด้วยค่ะ

เราไปถึง Station 5 เวลาเกือบ 11 โมง บน Station 5 จะมีร้านค้ามากมาย ซึ่งจะขายพวกอุปกรณ์การปีนเขา ของฝาก รวมไปถึงขนมเครื่องดื่มถ้าใครไม่ได้เตรียมไปก็ซื้อที่ station นี้ได้ค่ะ และไม่ใช่มีแค่ร้านค้านะคะ แต่บน station ที่ 5 ยังมีจุดชมวิวสวยๆ ให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ตั้งใจปีนไปชั้นบน นั้งรถขึ้นมาถ่ายรูปได้ด้วย

ป้ายรถบัสที่ Station 5 จุดเริ่มต้นการเดินทางขึ้นภูเขาไฟฟูจิ
ป้ายรถบัสที่ Station 5

หรือถ้าใครอยากออกกำลังขาบ้างอะไรบ้าง แนะนำให้เดินขึ้นไปชมวิว บน station ที่ 6 และ 7 ได้ค่ะ ระยะทางไม่ไกลมากนัก รับรองวิวทิวทัศน์ข้างบนส่วยงามคุ้มกับที่เหนื่อยขึ้นไปแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ยังมีบริการนั่งรถม้า หรือขี่ม้าขึ้นไปก็ได้ค่ะ ที่ Station 5 มีให้บริการอยู่ แต่สำหรับเราต้องปีนเท่านั้น อิอิ

บรรดานักท่องเที่ยว ณ บริเวณจุดชมวิว Station 5
บรรดานักท่องเที่ยว ณ บริเวณจุดชมวิว Station 5
บรรดานักปีนเขารวมตัวกันก่อน ณ Station 5
บรรดานักปีนเขารวมตัวกันก่อน ณ Station 5
คนทั่วไปก็สามารถขับรถขึ้นมายัง Station 5 ได้ค่ะ
คนทั่วไปก็สามารถขับรถขึ้นมายัง Station 5 ได้ค่ะ
ยอดภูเขาไฟฟูจิ เมื่อมองจาก Station 5
ยอดภูเขาไฟฟูจิ เมื่อมองจาก Station 5

เรากับเพื่อนพอถ่ายรูปที่ Station 5 ได้รูปสวยๆ เป็นที่พอใจแล้ว ก็ขอแวะเข้าไปซื้อไม้ค้ำสำหรับปีนเข้าซะหน่อย เลือกซื้อเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มออกสตาร์ทกัน สำหรับไม้เท้าราคา 800 เยน ค่ากระดิ่ง 300 เยน ส่วนใครต้องการธงชาติญี่ปุ่นด้วยก็บวกไปอีก 300 เยนค่ะ

เราเริ่มเดินจาก station ที่ 5 ราว 11 โมงนิดๆ ช่วงตีนเขาจะมีจุดจำหน่ายตั๋ว ค่าขึ้นคนละ 1,000 เยน มีพวงกุญแจไม้เป็นที่ระลึกให้ด้วยค่ะ

อุปกรณ์และตั๋วขึ้นภูเขาไฟฟูจิ สามารถหาซื้อได้ที่ Station 5 ได้เวลาเดินทางกับทีมงาน DPlus guide แล้ว
อุปกรณ์และตั๋วขึ้นภูเขาไฟฟูจิ สามารถหาซื้อได้ที่ Station 5 ได้เวลาเดินทางกับทีมงาน DPlus guide แล้ว!

เราเดินไปตามทาง Yoshida Trail ค่ะ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เดินง่ายที่สุด เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ยังไม่เหนื่อยมากค่ะ เดินยังไม่ถึงไหน เห็นวิวช่วงแรกๆ ก็เริ่มสวยแล้ว โชคดีวันที่เราขึ้นอากาศแจ่มใสมาก แดดดีเลยทีเดียว ^_^ วิวข้างหน้าเราเป็นปุยเมฆลอยเต็มท้องฟ้าไปหมด ยิ่งตัดกันกับสีท้องฟ้า ที่เป็นสีฟ้าจริงๆ ค่ะ ยิ่งสวยอะไรเช่นนี้ ทำให้เราเริ่มอยากขึ้นไปเห็นข้างบนยอดเร็วๆ แล้วสิ ป่ะรีบเดินกัน…

ระหว่างทางขึ้นเขาฟูจิ
ระหว่างทางเดินสวนกับกลุ่มพี่ๆ ทหารด้วยค่ะ
เที่ยวญี่ปุ่น พิชิตภูเขาไฟฟูจิ วิวจาก Station 5 ภูเขาไฟฟูจิ
แค่ Station 5 ก็อยู่สูงกว่ากลุ่มเมฆแล้วค่ะ

วิวจาก Station 5 ภูเขาไฟฟูจิเราเดินขึ้นไปเรื่อยๆ จาก station ที่ 5 ไปถึง station ที่ 6 ระยะทางไม่ไกลกันมาก และยังไม่ถึงกับต้องปีน บริเวณนี้เดินขึ้นได้สบายๆ เป็นเส้นทางพื้นดินราบๆ สลับกับก้อนหินบ้างเล็กน้อย ถือเป็นการวอร์มอัพไปในตัว ^_^

เมื่อถึง Station 6 จะเป็นจุดที่ทุกคนจะแวะพักถ่ายรูป ชมวิว ประทับตราไม้เท้า หรือเข้าห้องน้ำกันค่ะ ค่าเข้าห้องน้ำ 200 เยน ต่อครั้ง ควรเตรียมเหรียญให้พอดีค่ะ เพราะไม่มีทอน เราต้องหยอดใส่กระปุกเอง ห้องน้ำทุกๆ station จะเสียค่าเข้าประมาณนี้ค่ะ

เรากับเพื่อนแวะพักและถ่ายรูปที่ station ที่ 6 สักพักก็เริ่มเดินทางกันต่อค่ะ

หลังจาก Station 6 มาแล้ว จะเจอจุดที่เชื่อมกับ Gotemba Trail ที่มาจากอีกฝั่งหนึ่งค่ะ
จุดนี้จะเชื่อมกับ Gotemba Trail ที่มาจากอีกฝั่งหนึ่งค่ะ
วิวจาก Station 6 จ้า
วิวจาก Station 6 จ้า
วิวมุมกว้างจาก Station 6
วิวมุมกว้างจาก Station 6
เมื่อหันหลังไป จะพบกับทางขึ้น Station 7
จากวิวเมื่อครู่ เมื่อหันหลังไป จะพบกับทางขึ้น Station 7

จาก station ที่ 6 ไปยัง station ที่ 7 เริ่มเป็นทางไต่ระดับ แต่ไม่ถึงขั้นลำบากมาก จะมีทางที่เป็นขั้นบันไดให้บ้างเป็นระยะๆ ก่อนใกล้จะถึง station ที่ 7 เส้นทางจะเริ่มมีให้ปีนป่ายบ้างเล็กน้อย ส่วนสภาพอากาศเมื่อใกล้ถึง station ที่ 7 จะเริ่มมีเมฆหมอกปกคลุม เราจะได้สัมผัสกับปุยเมฆแบบระยะประชิดตัวกันเลยทีเดียว.. ฟินมากๆ ค่ะขอบอก

วิวบนภูเขาไฟฟูจิ เราเห็น Staion 7 อยู่เบื้องหน้าแล้ว
เห็น Staion 7 อยู่เบื้องหน้าแล้ว
ในที่สุดก็ถึง Station 7!
ในที่สุดก็ถึง Station 7!

พอถึง Station 7 จะเราขอนั้งพักสักแป๊บ.. ที่ station นี้จะมีร้านรับบริการแสตมป์ลายปั๊มบนไม้ค้ำปีนเขา ที่เราซื้อมาจากร้านขายอุปกรณ์ปีนเขาที่ station ที่ 5 นั่นแหละค่ะ ราคาจะแตกต่างกันไปตามความสูงแต่ละ station

สำหรับ station นี้เราจ่ายไป 300 เยนค่ะ (และก็ได้ปั๊มแค่ station เดียว เปลือง 55) เรานั่งพักพอให้หายเหนื่อย กินขนม และตียิมโปเกม่อน อิอิ (ลืมบอกไปค่ะ ว่าที่แต่ละ station ของภูเขาไฟฟูจิมียิมโปเกมอนให้คนเล่น Pokémon GO แวะตียิมด้วยนะ 55)

ณ Station 7
ณ Station 7
พยายามแล้ว แต่แพ้ตลอดเลยค่ะ อิอิ
พยายามแล้ว แต่แพ้ตลอดเลยค่ะ อิอิ

เมื่อพักผ่อนจนหายเหนื่อยแล้ว จุดหมายปลายทางในคืนนี้ของเรา คือ Station 8 เราจองที่พักที่ โรงแรม Gunso – Muro ไว้ค่ะ (ราคาสองคน 15,900 เยน ต่อคืนรวมอาหาร 2 มื้อ คืออาหารเย็นกับอาหารเช้า) โดยจองผ่านเว็บไซต์ http://www.mfi.or.jp/fujisan/english/index.html และไปจ่ายเงินตอนเช็กอินค่ะ

พอมองขึ้นไปเห็นเป็น station ลิบๆ คิดว่าเป็น station ที่ 8 แน่ๆ อีกนิดเดียวก็คงถึงแล้วววสินะ เย้!

ทางขึ้นไป Station 8 จาก Station 7
ทางขึ้นไปยัง Station 8 จาก Station 7

เส้นทางสู่ Station 8 พิชิตภูเขาไฟฟูจิ จาก station ที่ 7 ไป 8 ตรงนี้เราเรียกว่า “ปีน” ได้เต็มปากเต็มคำเลยค่ะ ^_^” เส้นทางชันมากขึ้น ต้องเริ่มใช้มือจับก้อนหินสลับใช้ไม้ค้ำเพื่อพยุงตัวขึ้นไปเรื่อยๆ

จากที่มองเห็น Station ที่ 8 ที่ว่าลิบๆ เอิ่มมม.. รู้สึกไม่ใกล้แล้วสินะ เพราะมันคือจุดแวะพักต่างหาก ในใจก็คิดเมื่อไหร่จะถึงสักที เมฆหมอกเริ่มปกคลุม คือตอนนี้เราอยู่ทามกลางเมฆและหมอกนั่นเอง เมื่อกระทบกับใบหน้ารู้สึกเย็นๆ แต่มีข้อดีคือช่วยให้หายเหนื่อยได้บ้างเล็กน้อย เราปีนขึ้นไปเรื่อยๆ มองเห็นที่พักเหมือนใกล้แต่ไม่ถึงสักที ^_^

พิชิตภูเขาไฟฟูจิ เส้นทางปีนขึ้นไปยัง Station 8 อีกไกลแค่ไหน จนกว่าฉันจะใกล้...บอกที TT
อีกไกลแค่ไหน จนกว่าฉันจะใกล้…บอกที TT
เนินปราบเซียน เส้นทางพิชิตภูเขาไฟฟูจิ บริเวณทางขึ้น Station 8 และนักท่องเที่ยวมากมาย
ตรงนี้เป็นเนินปราบเซียน

วิวสวยๆ ระหว่างทางขึ้นภูเขาไฟฟูจิ

และแล้วเราก็มาถึงที่ Station 8 ในเวลาเกือบหกโมงเย็น (เริ่มออกจาก Station 7 เวลาบ่ายโมงครึ่ง) รู้สึกดีใจมากนี่เราถึงแล้วใช่มั้ย!!

เพื่อนเราลองเข้าไปถามดูว่าใช่ที่พักที่เราจองไว้หรือเปล่า ในใจเราตอนนี้คืออยากจะยกเป้ออกจากหลังมากกก รู้สึกเริ่มมีความหวังว่าจะได้พักแล้วๆๆๆๆ ^_^

แล้วเพื่อนเราก็กลับมาเพื่อบอกกับเราว่า… ยังไม่ถึงที่พักของเราจ้า! ที่พักเราต้องเดินขึ้นไปอีกน่าจะประมาณอีก 2 ชั้นได้ แทบจะเป็นลมตรงนั้น ฮ่าๆๆๆ

เที่ยวญี่ปุ่น ปีนภูเขาไฟฟูจิ ถึงแล้ว Station 8
ถึงแล้ว Station 8 ภูเขาไฟฟูจิ แต่ยังไม่ถึงที่พักของเรานะจ๊ะ ฮ่าๆๆๆ

เพราะนี่เป็นเส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิแสนทรหด ถ้าไม่ โหด – มันส์ – ฮา ก็ไม่สมเป็นภูเขาไฟฟูจิสิเนอะ! ตอนหน้า เราจะขึ้นไปดูหน้าตาของ “โรงแรมบนภูเขาไฟฟูจิ” ที่มาพร้อมกับประสบการณ์นอนบนเขาสูงๆ กันค่ะ รับรองว่าที่พักบนเขาก็ โหด – มันส์ – ฮา ไม่แพ้การปีนเขาเลย ตามมาดูกันเลยค่ะ!

อ่านต่อ : ปีนภูเขาไฟฟูจิ…ชีวิตหนึ่งควรต้องลอง!! (ตอนที่ 2)(จบ)

เรื่องและภาพ: Katai Noi DPlus Guide Team