พาไปดูที่เที่ยวแห่งใหม่ แหล่งชิลล์เอาต์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ชื่อว่า ล้ง 1919 (LHONG 1919) ที่นี่มีทั้งโกดังเก่า อาคารประวัติศาสตร์ ท่าเรือ คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านผลงานศิลปะ ตลาดนัดสตรีทฟู้ด ตลอดจนศาลเจ้าที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชุมชนค้าขายมาแต่โบราณรวมกันในที่เดียว

ถ้าใครกำลังมองหามุมสงบพักใจในกรุงเทพฯ ตลอดจนมุมถ่ายรูปเก๋ๆ สไตล์จีนโบราณ คุณมาถูกทางแล้วค่ะ เราขอแนะนำ ล้ง 1919 เป็นอย่างยิ่งเลย

“ล้ง 1919” แปลงท่าเรือเก่าเป็นแหล่งชิลแห่งใหม่ กรุ่นไอประวัติศาสตร์

แต่เดิม “ล้ง” มีชื่อว่า “ฮวย จุ่ง ล้ง” หมายถึง ท่าเรือกลไฟ เป็นท่าเรือสำหรับเรือโดยสารหรือเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงซึ่งชาวจีนใช้เดินทะเลเข้ามาค้าขายในไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 มี ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ประดิษฐานอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจวบจนปัจจุบัน

ต่อมาตระกูลหวั่งหลีได้เข้ามาเป็นเจ้าของพื้นที่และปรับปรุงท่าเรือให้กลายมาเป็นโกดังและอาคารสำนักงาน บริเวณนี้จึงเป็นที่รู้จักกันในนาม โกดังของบ้านหวั่งหลี ตั้งอยู่สุดถนนเชียงใหม่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ตรงข้ามกับย่านตลาดน้อย-เยาวราช จนได้รับการพัฒนาอีกครั้งให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว “ล้ง 1919” เมื่อปลายปี 2560 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ

ล้ง 1919 (LHONG 1919) ท่าเรือและโกดังประวัติศาสตร์ ที่ปัจจุบันเป็นจุดบรรจบกันระหว่างแหล่งชิลล์ของคนรุ่นใหม่และวัฒนธรรม
ล้ง 1919 (LHONG 1919) ท่าเรือและโกดังประวัติศาสตร์ ที่ปัจจุบันเป็นจุดบรรจบกันระหว่างแหล่งชิลล์ของคนรุ่นใหม่และวัฒนธรรม

บริเวณด้านหน้าล้ง 1919อาคารในล้ง 1919มุมถ่ายรูปสวยๆ ที่ ล้ง 1919

มุมถ่ายรูปสวยๆ ที่ ล้ง 1919

ล้ง 1919 เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนว Heritage ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ และมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่แอบซ่อนอยู่ทุกด้านทุกมุมของแต่ละอาคาร นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายสินค้าศิลปะและงานฝีมือของศิลปินรุ่นใหม่ให้ช้อปกัน

สำหรับคนที่ชอบแหล่งท่องเที่ยวแนวสถาปัตยกรรมโบราณและงานศิลปะ แนะนำให้ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของอาคารที่เป็นศาลเจ้าหม่าโจ้ว และอาคารที่อยู่ข้างๆ จะได้พบกับ “จิตรกรรมฝาผนัง” ที่มีอายุมากกว่า 167 ปี ซึ่งถูกค้นพบอยู่ใต้สีที่ถูกทาทับเอาไว้หลายชั้น เป็นภาพวาดสีฝุ่นลงบนผนังปูนแห้ง ด้วยช่างฝีมือชั้นเลิศ ลักษณะพิเศษคือเป็นการใช้สีแบบ “สีเบญจรงค์” ซึ่งใช้สีทั้งหมดเพียง 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีแดง, สีฟ้าคราม, สีเขียว และสีเหลืองเท่านั้น

ปัจจุบันภาพวาดเหล่านี้ได้รับการบูรณะจากของเดิม และมีกระจกกั้นเพื่อเก็บรักษาให้อยู่ในสภาพดีที่สุด เพื่อนๆ ที่มาเที่ยวช่วงแรกๆ อาจได้เห็นเจ้าหน้าที่กำลังบูรณะภาพวาดตามกรอบหน้าต่างอยู่ ฉะนั้นส่วนใดที่ยังบูรณะไม่เสร็จ ไม่ควรเอามือไปสัมผัสนะคะ

ภาพวาดบนขอบหน้าต่างที่บูรณะเสร็จแล้ว จะมีกระจกกั้นเพื่อรักษาสภาพให้คงเดิมที่สุด
ภาพวาดบนขอบหน้าต่างที่บูรณะเสร็จแล้ว จะมีกระจกกั้นเพื่อรักษาสภาพ ซึ่งภาพเขียนบนฝาผนังเหล่านี้ เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่สมัย ร.4
บริเวณชั้น 2 มีเจ้าหน้าที่กำลังบูรณะฝาผนังอยู่นะคะ
พื้นที่บางส่วนยังมีเจ้าหน้าที่กำลังบูรณะฝาผนังอยู่ โดยใช้สีและปูนธรรมชาติ เพื่อให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาลงฝีพระหัตถ์แต่งแต้มงานบูรณะและพระกรุณาโปรดเกล้าลงพระนามาภิไธยด้วยหมึกจีนบนผนัง ที่ ล้ง 1919
ภาพวาดบนฝาผนังที่บูรณะเสร็จสิ้นแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาลงฝีพระหัตถ์แต่งแต้มงานบูรณะและพระกรุณาโปรดเกล้าลงพระนามาภิไธยด้วยหมึกจีนบนผนังด้วย
บริเวณชั้น 2 ของล้ง 1919
บริเวณชั้น 2 ของล้ง 1919 ด้านในแต่ละห้องจะเปิดเป็นโซนจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ สามารถถ่ายรูปจากด้านนอกได้ค่ะ

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของการมาเที่ยวที่ล้ง 1919 ก็คือการมาสักการะ ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว (คลองสาน) ที่อาคารด้านในสุดนั่นเองค่ะ

บริเวณด้านล่างล้ง 1919 สามารถเข้าไปกราบไหว้เจ้าแม่หม่าโจ้ว
บริเวณด้านล่างสามารถเข้าไปกราบไหว้เจ้าแม่หม่าโจ้วได้ค่ะ

เจ้าแม่หม่าโจ้วทั้ง 3 ปาง

บริเวณชั้น 2 สามารถขึ้นมากราบไหว้เจ้าแม่หม่าโจ้วได้นะคะ
บริเวณชั้น 2 สามารถขึ้นมากราบไหว้เจ้าแม่หม่าโจ้วได้ค่ะ แต่ต้องกราบไหว้บริเวณด้านหน้าเท่านั้นนะคะ

สำหรับ “เจ้าแม่หม่าโจ้ว” (คลองสาน) หรือ MAZU ที่ประดิษฐานอยู่คู่กับฮวย จุ่ง ล้ง มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ ซึ่งเจ้าแม่หม่าโจ้วนั้นทำมาจากไม้ มีทั้งหมด 3 ปางคือ

  • ปางเด็กสาว (ปางจุ้ยบ๋วยเนี้ย) มีตำนานเล่ากันว่า ท่านชอบปฏิบัติธรรมในช่วงเช้า จะไปเก็บน้ำค้างมารักษาผู้คน ปางนี้จึงให้พรเรื่องการขอบุตรค่ะ
  • ปางผู้ใหญ่ (ปางให่ตั้งหม่า) ปางนี้ให้พรในเรื่องการค้าขายเงินทอง
  • ปางเทพ (ปางเทียนโหวเซี่ยบ้อ) เชื่อกันว่าท่านเป็นเทพที่ประทับอยู่บนสวรรค์ มีเมตตาจิตที่สูง

โดยทั้ง 3 ปางนี้เป็นองค์ที่ชาวจีนนำขึ้นเรือมาจากประเทศจีน เมื่อมาถึงประเทศไทยจึงได้อัญเชิญประดิษฐานที่ฮวย จุ่ง ล้งแห่งนี้ หากชาวจีนที่เดินทางมาจากโพ้นทะเลมาถึงฝั่งประเทศไทย มักจะมากราบไหว้เป็นการขอบคุณที่ช่วยคุ้มครองการเดินทางให้ปลอดภัย และเมื่อจะเดินทางกลับยังประเทศจีนก็จะมากราบลาที่นี่เช่นกันค่ะ

บริเวณรอบๆ ศาลเจ้าก็ถูกประยุกต์เป็นร้านค้าแนวอาร์ตๆ มีทั้งงานศิลปะ ของที่ระลึก และแฟชั่น ตลอดจนเวิร์กช้อปทำของที่ระลึก ใครที่ชื่นชอบสินค้าสไตล์ Handmade ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งค่ะ และยังมีร้านจำหน่ายของที่ระลึกของล้ง 1919 เองอีกด้วย

ร้านค้าของศิลปินรุ่นใหม่ที่จำหน่ายสินค้าสไตล์ Handmade
บริเวณด้านล่างมีช้อปของศิลปินรุ่นใหม่ที่จำหน่ายสินค้าสไตล์ Handmade ด้วยนะคะ
ช้อปของล้ง 1919
ช้อปของที่ระลึกของล้ง 1919 เองก็มีนะคะ
แม้แต่บริเวณโซนร้านค้าของล้ง 1919 ก็มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปนะ!
แม้แต่บริเวณโซนร้านค้าก็มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปนะ!

ภายในโครงการของล้ง 1919 นอกจากมีเจ้าแม่หม่าโจ้วให้ประชาชนมากราบไหว้กันแล้ว ก็ยังมีร้านจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ฝีมือของศิลปินรุ่นใหม่ๆ ด้วยนะคะ

และหากใครมาเที่ยวในสุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ ก็จะมีตลาดนัดสตรีทฟู้ด Mini Street Food ด้วยนะคะ มีร้านจำหน่ายเครื่องดื่ม อาหารทานเล่นตั้งอยู่ในบริเวณลานหน้าศาลเจ้ามากมายหลายร้าน

โซน Mini Street Food
โซน Mini Street Food จะมีเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ นะคะ

โซน Mini Street Food

ร้าน Tima ติหมา ในโซน Mini Street Food
ร้าน Tima ติหมา ขายน้ำผลไม้ปั่นบรรจุลงในติหมา ภาชนะโบราณของชาวใต้ แนะนำน้ำมะพร้าวปั่นนะจ๊ะ (แอบกระซิบ พ่อค้าน่ารักด้วยนะเธอ) (≧▽≦)
น้ำมะพร้าวปั่น ร้าน Tima ติหมา ในโซน Mini Street Food
มาแล้วววว น้ำมะพร้าวปั่นบรรจุในติหมา เครื่องสานที่ทำจากใบพืชตระกูลปาล์มที่นำมาสานกัน สามารถใส่น้ำได้โดยไม่รั่วออกมาเลย สุดยอดมากๆ
ไก่ทอดจากร้าน ko-ke-kok-ko ในโซน Mini Street Food
ไก่ทอดซอสเด็ดจากร้าน ko-ke-kok-ko มีรสโชยุ รสเผ็ด และรสส้มค่ะ (อ่านไม่ผิดค่ะ เป็นไก่เคลือบรสส้มจริงๆ)
ไก่ทอดชิ้นใหญ่จากร้าน ko-ke-kok-ko
ไก่ทอดชิ้นใหญ่ มีถุงมือให้ใส่ ไม่ต้องกลัวมือเปื้อนนะจ๊ะ

แต่หากใครที่ยังไม่จุใจกับสตรีทฟู้ด อยากจะขอแบบจัดหนัก จัดเต็มให้อิ่มท้อง ที่นี่ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านนายห้าง ร้านอาหารสตรีทฟู้ดระดับพรีเมี่ยม, ร้านลมโชย ร้านอาหาร 4 ภาคและก๋วยเตี๋ยวของ พี่เอ ศุภชัย หรือจะ ร้านเพลินวานพาณิชย์ ร้านอาหารไทยและคาเฟ่สไตล์ย้อนยุคราคาไม่แรงก็มี

ร้านอาหารในโครงการล้ง 1919
ร้านอาหารภายในโครงการจะอยู่บริเวณด้านหน้าของล้ง 1919 นะคะ
ด้านหน้าร้านเพลินวานพาณิชย์ ของล้ง 1919
ด้านหน้าร้านเพลินวานพาณิชย์ ตกแต่งด้วยเก้าอี้ย้อนยุค

บรรยากาศด้านในร้านเพลินวานพาณิชย์ ของล้ง 1919

เมนูข้างแรม (ชาเย็น) และชานม ร้านเพลินวานพาณิชย์
เมนูข้างแรม (ชาเย็น) และชานม
เมนูจากทางร้านเพลินวานพาณิชย์
ชุดเมนูอาหาร Recommended Set Menu ของเพลินวานพาณิชย์ ไวไวหมูสับผัดไข่, ไก่กรอบจิ๊กโก๋, ปังนึ่งโบราณ และข้างแรม (ชาเย็น) และเมนูข้าวยำปลากระป๋อง

การเดินทางมาที่ ล้ง 1919 ก็ไม่ยากเลยค่ะ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS แล้วต่อเรือ Shuttle Boat ของล้งได้ฟรี มีเรือออกจากท่าน้ำทุกชั่วโมง หรือถ้าใครสะดวกทางเรือท่องเที่ยว ปัจจุบันก็มีเรือธงฟ้าที่แวะรับ-ส่งถึง ท่าเรือหวั่งหลี ซึ่งเป็นท่าเรือตรงหน้าล้ง 1919 ถึงที่เลย

เรือ Shuttle Boat ของล้ง 1919 จะประดับด้วยโคมไฟจีน
หน้าตาของเรือ Shuttle Boat ของล้ง 1919 จะประดับด้วยโคมไฟจีนแบบนี้ค่ะ

“ล้ง 1919” แปลงท่าเรือกลไฟในประวัติศาสตร์เป็นแหล่งชิล
[info-t] เปิดทุกวัน
– ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว เปิดเวลา วันจันทร์ 11:00 – 20:00 น. และวันอังคาร – วันอาทิตย์ 09:00 – 20:00 น. (ชั้น 2 ของศาลเปิดให้ขึ้นชมจนถึงเวลา 20:00 น.)
– โซน Art&Craft Shop เปิดเวลา 10:00 – 20:00 น.
– โซน Eatery Zone เปิดเวลา 10:00 -22:00 น.
[info-d] BTS สถานีสะพานตากสิน (ทางออก 1, 2) แล้วต่อเรือ Shuttle Boat ของล้ง 1919 ท่าเรือสาทร (ท่าเรือเดียวกับ ASIATIQUE) เรือจะออกจากท่าทุกๆ 1 ชั่วโมง (วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 12:45 – 21:45 น., วันเสาร์ – อาทิตย์ 12:45 – 22:45 น.)
[info-w] ล้ง (LHONG) 1919
[info-g] 13.734601, 100.507584

เรื่องและภาพ : ToobPro & naNutt DPlus Guide Team