ปราสาทลอยฟ้า

ปราสาทลอยฟ้า Takeda ปราสาททาเคดะ (Takeda Castle) เป็นปราสาทเก่าแก่ของเมืองอะสะโก (朝来市:Asago-shi) จังหวัดเฮียวโกะ (兵庫県:Hyogo-ken) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคคันไซ แม้ว่าปัจจุบันตัวปราสาทหลักไม่หลงเหลือให้เห็นแล้ว แต่แนวกำแพงหินนั้นยังคงสภาพเดิมค่อนข้างสมบูรณ์ตั้งอยู่อย่างสง่างามเหนือระดับน้ำทะเลถึง 353 เมตร ถือเป็นปราสาทที่อยู่บนเนินเขาสูงระดับต้นๆ ของญี่ปุ่น

ปราสาทลอยฟ้า Takeda

ในช่วงเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น หรือในช่วงเช้าของฤดูใบไม้ร่วงรอบๆ ปราสาทจะถูกโอบล้อมไปด้วยหมอกหนา มองดูคล้ายกับว่าปราสาทนั้นลอยอยู่ท่ามกลางทะเลหมอก จึงได้รับสมญานามว่า “ปราสาทลอยฟ้า” หรือ “มาชูปิกชูของญี่ปุ่น”

ปราสาทลอยฟ้า Takedaปราสาททาเคดะถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาโคโจยามะ (Kojoyama :古城山) มีอาณาเขตจากเหนือจรดใต้ประมาณ 400 เมตร และตะวันออกไปยังตะวันตกประมาณ 100 เมตร ซึ่งอดีตอยู่ในพื้นที่การสู้รบระหว่าง 3 แคว้นคือ Harima, Tanba และ Tajima โดยใช้เป็นฐานบัญชาการของปราสาทอิซุชิ (Izushi) อีกที ปราสาทถูกสร้างขึ้นโดย โอตะงะกิ มิตสึคาเกะ (Ohtagaki Mitsukage) ขุนศึกผู้มีความภักดีแด่ตระกูลยามานะ (Yamana clan)

ปราสาทลอยฟ้า Takeda

ซึ่งในเวลานั้นยามานะ โซเซน (Yamana Sozen) ได้ครอบครองดินแดนแถบนี้ ปีที่สร้างปราสาทสันนิษฐานว่าอยู่ในช่วง ค.ศ. 1441-1443 ตระกูลยามานะได้ครอบครองปราสาทถึง 5 อายุคน จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1577 ปราสาททาเคดะก็ถูกยึดครองโดย โทโยะโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ผู้นำของแคว้น Tajima ปราสาทอยู่ใต้การปกครองของตระกูลฮิเดโยชิมาตลอด จนมาถึงรุ่นสุดท้ายคือ อะคะมัตสึ ฮิโรฮิเดะ (Akamatsu Hirohide) ได้นำกองกำลังสู้รบกับ โทกุงาวะ อิเอยะสุ ในสงคราม Sekigahara หรือการช่วงชิงดินแดนทางตะวันตก ที่ปราสาททตโตริ (Tottori Castle) อะคะมัตสึ ฮิโรฮิเดะ ได้ต่อสู้จนสุดกำลังแต่ก็พ่ายแพ้แก่กองทัพของโทกุงาวะ และยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลอบวางเพลิงปราสาท

ปราสาทลอยฟ้า Takeda

หลังจากนั้นปีเดียวกันฮิโรฮิเดะ ได้ตัดสินใจทำ seppuku (คว้านท้องตนเอง) เพื่อคงไว้ซึ่งเกียรติยศของตนเองปราสาททาเคดะจึงถูกปล่อยให้ร้างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ปราสาทลอยฟ้า Takeda

สามารถชมวิวจากมุมนั้นๆ ได้ เพียงแต่ว่าในช่วงเวลาสายๆ จะไม่มีหมอกรอบๆ ซากปราสาทเท่านั้นแต่ทิวทัศน์เบื้องล่างไม่ว่าจะเป็นชุมชนอะสะโกะที่ตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบ ทุ่งนาหลากสีที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา มีแม่น้ำมารุยามะกาวะ (円山川) ไหลผ่าน เป็นความงามที่เรียบง่าย แต่ไม่อาจละสายตาได้ ตามทางเดินไปยังจุดต่างๆ จะมีต้นซากุระปลูกเรียงราย ในฤดูใบไม้ผลิ (กลางเดือนเมษายน) บริเวณนี้จะเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง เมื่อเดินครบรูทจะต้องลงคนละทางกับทางขึ้น

ปราสาทลอยฟ้า Takeda

สำหรับทะเลหมอกนั้น ไม่ได้ปรากฏให้ทุกวัน ต้องอาศัยสภาพอากาศและช่วงเวลาที่เหมาะสม บางครั้งอาจต้องอาศัยโชคช่วยด้วย โอกาสที่จะเกิดเป็นทะเลหมอกนั้นเกิดจากหลายปัจจัย หลักๆ แล้วจะต้องเป็นวันที่ไม่มีลม และต้องเป็นวันที่อากาศเย็นลงมากในช่วงเช้าตรู่ จนไอน้ำในอากาศเริ่มควบแน่นเป็นละอองน้ำ หรือเกิดจากอากาศได้รับความชื้นจากการระเหยของน้ำในแม่น้ำมารุยามะกาวะ บวกกับการคลายความร้อนของพื้นดินหรือหุบเขาในบริเวณนั้น

ปราสาทลอยฟ้า Takeda

ทำให้อากาศบริเวณนั้นเย็นเป็นลม อากาศที่เย็นจะเคลื่อนไปจมในหุบเขา และกลายเป็นทะเลหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณสำหรับมุมที่เห็นปราสาททาเคดะลอยอยู่เหนือทะเลหมอกนั้น จะต้องขึ้นไปชมจากใจกลางภูเขา Ritsu-unkyo ที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของซากปราสาททาเคดะ ซึ่งจะต้องขับรถส่วนตัวหรือนั่งแท็กซี่ขึ้นไปเท่านั้น และลานจอดรถจะต้องเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิวสูงสุดอีกที ซึ่งจะสามารถมองเห็นปราสาททาเคดะอีกฝั่งอย่างชัดเจน และเป็นมุมเดียวกับที่ใช้ในสื่อโปรโมทการท่องเที่ยวนั่นเอง

ปราสาทลอยฟ้า Takeda
[info-p] 500 เยน
[info-t]  มี.ค. – พ.ค 08:00 – 18:00 น.
มิ.ย. – ส.ค. 06:00 – 18:00 น.
ก.ย. – พ.ย. 04:00 – 17:00 น.
ธ.ค. – 3 ม.ค. 10:00 – 14:00 น.
[info-d] จากหน้าสถานี JR Asago นั่งรถบัสนำเที่ยว Tenku bus (Loop bus) ไปลงป้าย Takeda Castle หรือนั่งแท็กซี่ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นเดินอีก 800 เมตร หรือเดินจากทางขึ้นเขาด้านหลังสถานี JR Asago ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
[info-g] 35.300569, 134.829179

ที่มาข้อมูลและภาพ : หนังสือ Unseen&Amazing Japan