เที่ยวชม ช้อป แช่ ออนเซ็น เมืองอูไหล

เมืองอูไหล (Wulai) เป็นหมู่บ้านชนเผ่าพื้นเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากไทเป เป็นเมืองท่ามกลางธรรมชาติและออนเซนยอดฮิต ที่ทั้งนักท่องเที่ยว และคนไต้หวันนิยมเดินทางมาเที่ยว พักผ่อน และแช่ออนเซนกัน ซึ่งเมืองออนเซนชื่อดังอีกเมืองที่น่าสนใจยังมีอยู่อีกเมือง นั่นก็คือเมืองเป่ยโถ (Beitou) นั่นเอง

เที่ยว ชม ช้อป แช่ ออนเซ็น เมืองอูไหล
แม่น้ำสายมรกตที่พาดผ่านใจกลางเมืองอูไหล

แต่วันนี้เรามาชื่นชมความงดงามและธรรมชาติของเมืองอูไหลกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าจะสวยงามและมีความน่าสนใจเพียงใด

จุดรอรถบัสที่สถานีรถไฟฟ้า Xindian
จุดจอดรถบัสสาย 849 สุดเส้นทางที่อูไหล
วิวธรรมชาติตรงจุดจอดรสบัสสาย 849 ที่เมืองอูไหล

เราเดินทางมาที่อูไหลกันด้วยรถบัส (ดูรายละเอียดการเดินทางท้ายบทความ) ใช้เวลาไม่นานมาก พอลงรถบัสจะได้พบกับความงามของแม่น้ำสายหลักสีเขียวมรกต ขนาบข้างไปด้วยมวลหมู่ไม้สีเขียวครึ้ม ดูแล้วสบายตา

ทางเดินเข้าสู่ตลาดที่เป็นถนนสายเก่าของหมู่บ้าน

หลังจากที่ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสายธารกันแล้ว เราก็มุ่งกันต่อที่ตลาดที่เป็นถนนสายเก่าของที่นี่ให้ได้ช้อปปิ้งซื้อของฝาก และฝากท้องกัน เราแวะมาที่นี่ในวันธรรมดา คนจึงน้อยและเดินเที่ยวกันแบบสบายๆ 2 ข้างทางของตลาดเต็มไปด้วยร้านค้าขายของฝาก และอาหารสตรีทฟู้ดให้ได้เดินซื้อเดินกินกันไป 

กุนเชียงไต้หวัน หรือภาษาจีนเรียกว่า เซียงฉาง

เมนูเด็ดที่มีคนแนะนำว่าห้ามพลาดก็คือ “กุนเชียงไต้หวัน” หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า “เซียงฉาง” เป็นกุนเชียงเนื้อแน่นไม่หวานไม่เลี่ยน เนื้อแน่นกัดแล้วกรอบนอกนุ่มใน ซึ่งเคล็ดลับความอร่อยเค้าบอกว่าทำมาจากเนื้อหมูป่านั่นเอง (เนื้อหมูป่าจะมีมันน้อยกว่าหมูเลี้ยง) 

อีกเมนูที่อยากแนะนำก็คือไข่สมุนไพรที่นำไปเคี่ยวกับน้ำใบชาจนสีของไข่ขาวกลายเป็นสีดำอมน้ำตาล เนื้อเหนียวหนึบคล้ายกับไข่เยี่ยมม้าบ้านเรา แต่เวลาทานจะได้กลิ่นสมุนไพรไปด้วย มาแล้วต้องลอง!!!

ร้านของฝากภายในตลาด

เดินกันจนเหนื่อยเมื่อยก็ถึงเวลาแวะทานอาหารมื้อหลักกัน ในตลาดแห่งนี้มีร้านอาหารตามสั่งอยู่หลายร้านเลยค่ะ หน้าร้านทุกร้านจะมีพนักงานเชิญชวนเข้าไปนั่งกันจนเลือกไม่ถูกหน้า ร้านด้านหน้าจะถูกจัดวางสไตล์ร้านข้าวต้มกลางคืนเมืองไทย ที่ชอบวางวัตถุดิบกันเรียงรายหน้าร้าน เป็นแบบนี้เหมือนๆกันทุกร้านเลยค่ะ เลือกไม่ถูกว่าจะเข้าร้านไหนดีก็มองๆ ดูร้านที่มีเมนูเป็นรูปภาพ จากนั้นก็เดินตามพนักงานเข้าไป…หูววววิวระดับโลกค่ะหน้าร้านดูแสนจะธรรมดา แต่พอเห็นข้างในแล้ว…แบบว่า…ได้ทานอาหารพร้อมนั่งดูวิวแม่น้ำสีเขียวมรกตกับธรรมชาติอันแสนสบายตาพูดได้เลยว่าเริ่ดมากกกกกกกก

เมนูในร้านอาหารมีเยอะมากจนเลือกไม่ถูกแต่ถ้าใครสายคลีนชอบทานผักเพื่อสุขภาพจะมีเมนูผัดผักหลากหลายชนิดมากๆ ผักแต่ละชนิดล้วนแล้วแต่เป็นผักที่ไม่คุ้นตา แต่พอผัดมาให้ทาน ก็สัมผัสได้ถึงความสด กรอบอร่อย แบบที่ไม่คาดคิด…ไม่อยากอวยเยอะ อิอิ เอาเป็นว่าลองไปสั่งทานดูกันเนอะ

อยากกินผัดผักอะไร ลองเลือกชี้สั่งดูกันได้
อาหารรสชาติเข้มข้น อร่อยใช้ได้เลย
เอาใจสายคลีน ผักกรอบมาก

อิ่มกันแล้วก็ได้เวลาไปต่อกันที่ออนเซนที่จองไว้ เป็นโรงแรมที่มีชื่อว่า Volando Urai Spring Spa and Resort ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากตลาด พอเดินไปได้ในวันอากาศดีๆ ทริปออนเซนนี้เราจองล่วงหน้าผ่านแอพ KKday เป็นห้องแช่ออนเซนแบบส่วนตัว ให้เวลาแช่ 1.30 ชั่วโมง (ปกติหน้าหนาวจะให้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น) แถมด้วยชุดน้ำชา/ชุดอาหารสำหรับ 2 ท่าน ในราคาเพียง 1,241 บาท (มาหน้าหนาว ราคาสูงกว่านี้จ้า)

ดูเหมือนไม่เยอะ แต่กินหมดมีจุกแน่

การบริการที่นี่เรียกได้ว่าใส่ใจลูกค้าอย่างดีเยี่ยม (ไม่ได้ค่าสปอนเซอร์นะ แต่รู้สึกดีจริงๆ) เนื่องจากเราจองแช่ออนเซนไว้ตอน 16.00 น. ซึ่งอยู่ในช่วง Tea Time ทาง รร. จึงแจ้งล่วงหน้าให้มาเวลา 15.00 น. เพื่อมานั่งทานชุดน้ำชาก่อนแช่ออนเซน พอมาถึงที่ รร.ก็ได้เวลาพอดี พนักงานชี้แจงรายละเอียด และให้ใบบุ๊กกิ้งขึ้นไปที่ชั้น 2 เพื่อนั่งพักและดื่มชุดชา พนักงานต้อนรับที่ให้บริการในโซนนี้นำเมนูมาแนะนำเป็นอย่างดี ในชุดน้ำชาจะมีของทานเล่นให้ 1 เซ็ท ซึ่งพนักงานจะให้เราเลือกเครื่องดื่มได้ตามใจชอบ ไม่ได้บังคับว่าจะต้องทานแต่ชานะจ๊ะ มีทั้งเมนูผลไม้ปั่น เครื่องดื่มเย็นก็มีให้เลือกเยอะ แอบส่องราคาปกติเครื่องดื่มอย่างนึงก็จะเริ่มต้นที่ราคา 200 TWD ส่วนที่เราสั่งจะรวมอยู่ในแพคเกจสั่งได้คนละ 1 อย่าง ฟรีจ๊ะ

น่ากินมาก แถมอร่อยอีกต่างหาก

ของว่างที่มาเสิร์ฟ ไม่ได้ดูดีแค่หน้าตา และไม่ใช่แค่มีเป็นของแถมไปงั้นๆ แต่รสชาตินั้นอร่อยไม่เสียชื่อ รร. ดังของเมืองเลยค่ะ

นั่งทานไปก็ชมวิวสายน้ำและธรรมชาติ

พอถึงเวลาแช่ออนเซนเราก็ลงมารอกันที่ชั้น 1 จะมีพนักงานเดินมาเชิญเราไปยังห้องที่ทำการจองไว้ ไปชมบรรยากาศภายในห้องกันเลยค่ะ

บรรยากาศภายในห้องแช่ พร้อมวิวริมหน้าต่างสุดแสนจะโรแมนติก
โซนนั่งอาบน้ำข้างๆ บ่อแช่ออนอซน
หน้าโต๊ะเครื่องแป้งจะมีอุปกรณ์วางไว้ให้ใช้อย่างครบครัน

หลังจากที่เข้ามา พนักงานจะเปิดน้ำไว้ให้อยู่แล้ว เราก็รอน้ำให้ได้ระดับ ช่วงที่รอน้ำก็ถอดเสื้อผ้า อาบน้ำที่ก็อกข้างๆ กันก่อนได้เลย ภายในห้องจะมีอุปกรณ์อาบน้ำ สบู่ แชมพู ผ้าขนหนู ไดร์เป่าผม หวี ครีมทาผิวให้อย่างครบครัน ก่อนลงแช่ แนะนำให้หย่อนเท้าลงไปก่อนนะคะ เพราะน้ำจะร้อนมาก หากลงไปเลยทั้งตัว อาจทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน

บรรยากาศมันให้แอบติดเรทนิดนึง ^_^

การแช่ออนเซนที่นี่ดีตรงที่มีความเป็นส่วนตัว และได้วิวบรรยากาศริมหน้าต่างที่เห็นธรรมชาติแบบเรียลๆ นั่งแช่ก็ชมวิวแม่น้ำสายมรกต และบรรยากาศต้นไม้ที่เขียวครึ้มไปด้วย เรียกได้ว่าผ่อนคลายระดับโลก

[คำเตือน ระหว่างการแช่ออนเซน ควรสังเกตชีพจรตัวเองด้วย ถ้ารู้สึกใจเต้นแรง รู้สึกอ่อนเพลีย กรุณาอย่าฝืนนะคะ เดี๋ยวเป็นลมเอา ให้ขึ้นมานั่งพักก่อน ถ้าไหวค่อยลงใหม่ ถ้าไม่ไหวก็นั่งพักให้ดีขึ้นแล้วอาบน้ำแต่งตัวเลยจ้า]

ป้ายรสบัสหน้าโรงแรมจะเป็นป้ายที่ 3 จากสถานีต้นสาย

ออกมาจากออนเซนก็ 5 โมงเย็นพอดี ถึงเวลาเดินทางกลับ เยื้องหน้ารร.ไปทางซ้ายมือจะมีป้ายรถบัสอยู่ ก็ไปยืนรอรถบัส พร้อมโบกมือบ๊าย บ่าย เมืองอูไหล จบทริปในหนึ่งวันกันอย่างสบายตัว เย้ๆๆๆๆๆๆๆ

การเดินทาง : โดยรสบัส สาย 849
– จากสถานี Taipei Main Station ทางออก M8 ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
– จากสถานี Xindian ทางออก G01 ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

เรื่องและภาพโดย@ipookpui

นักการตลาดผู้ชื่นชอบงานเขียนและการท่องเที่ยว แชร์เรื่องราวร้อยเรียงจากประสบการณ์จริงที่ไปพบไปเจอมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อบอกเล่าเป็นข้อมูลดีๆ กับคนที่สนใจ จะค้นมาจาก Google หรือเพื่อนก้อปให้อ่าน ก็ต้องขอขอบคุณจากใจนะคะ