แลนด์มาร์คที่สำคัญของไต้หวันแห่งนี้ มีความสูง 509 เมตร มีชั้นบนดินจำนวน 101 ชั้น และใต้ดินอีก 5 ชั้นค่ะ แล้วทำไมต้อง101? เลข “101” นั้น เป็นตัวแทนของรหัสดิจิตอล ซึ่งสื่อถึงความเป็นไอทีของไต้หวันนั่นเองค่ะ แต่เขาก็ไม่ได้นึกถึงแต่ความทันสมัยนะคะ เพราะในส่วนต่างๆของตึก ยังใส่ความเชื่อแบบจีนไว้หลายจุดเลย ไม่ว่าจะเป็นรูปเหรียญจีน ที่อยู่ทุกด้านของตึกด้านนอก คทา 如意 (หรูอี้) ที่อยู่เหนือประตูทางเข้า รวมถึงลวดลายแบบศิลปกรรมจีนที่ใช้ตกแต่งตามจุดต่างๆของตึกค่ะ นอกจากนี้ รูปทรงของตึกไทเป 101 ยังมีลักษณะคล้ายต้นไผ่ ซึ่งเป็นดั่งตัวแทนที่สื่อถึงความเกรียงไกรของชาวเชื้อสายจีน เมื่อครั้งเปิดตัวเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกด้วยค่ะ  

ตึกไทเป 101 นั้น จะมีห้างสรรพสินค้าอยู่ที่ชั้น B1, 1F-5F และมีชั้นชมวิวอยู่ที่ชั้น 88-91 ส่วนที่เหลือจะเป็นชั้นสำนักงานซะส่วนใหญ่ค่ะ (มีห้องอาหารบ้างเล็กน้อยตรงชั้นสูงๆ) 

ชั้นชมวิว ซื้อบัตรขึ้นได้ที่ชั้น 5 (600NT เวลาทำการ 9:00-22:00) จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์จากชั้น 5 ไปที่ชั้น 89 ค่ะ ลิฟต์วิ่งปรืด….37 วินาที ติ๊ง! ถึงเลย (บางทีจะช้าขึ้นอีกนิดถ้าสภาวะอากาศไม่ปกติ) ลิฟต์ตัวนี้เคยเป็นลิฟต์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกด้วยนะคะ เพิ่งโดนเบียดลงมาที่ 3 เมื่อปี 2016 นี่เอง ระหว่างที่เราขึ้นลิฟต์ เจ้าหน้าที่สุดสวยที่ขึ้นมากับเราด้วย จะทำการแร็พค่ะ ฮ่าๆ ไม่ๆ ทำการอธิบายและกล่าวต้อนรับเราค่ะ แต่ด้วยความที่มีเวลาเพียง 37 วินาที และต้องพูดถึง 3 ภาษา (จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น) สปีดในการพูดและจังหวะหยุดหายใจจะมีความแร็พหน่อยๆ^^ ขณะที่ลิฟต์ขึ้น ไฟจะดาวน์ลงและเพดานลิฟต์จะมีดวงดาวจำลองที่สวยงามให้ชมด้วยนะคะ 

เมื่อขึ้นมาถึง 89 เราจะได้พบกับวิวไทเป แบบ 360 องศาแล้วจ้า ในแต่ละทิศเขาจะมีจอแสดงสถานที่สำคัญๆ ไว้ให้เราลองกดดูกันด้วยนะคะ แล้วถ้าใครสนใจอยากจะส่งโปสการ์ดจากที่สูง ก็มาส่งกันได้ที่ชั้น 89 นี้เลยค่ะ จะเตรียมมาหรือมาซื้อจากร้านของที่ระลึกบนนี้เอาก็ได้นะคะ แสตมป์ก็ซื้อได้จากแคชเชียร์ร้านของที่ระลึกเช่นกันค่ะ พูดถึงร้านของที่ระลึก ตัวเองนี่ก็โดนมาแล้วไม่น้อย ถึงราคาของส่วนใหญ่จะสูงตามความสูงของตึก 55 แต่ก็อดใจไม่ค่อยได้ (ถ้าใครสนใจอยากดูอยากช็อป แต่ไม่ได้ขึ้นมาที่ชั้นชมวิว ก็สามารถดูได้ที่ชั้น B1 ของห้างนะคะ ตรงนั้นก็มีให้ซื้อค่ะ)  

จากชั้น 89 เราสามารถเดินลงบันไดมาที่ชั้น 88 ที่เป็นจุดชมลูก Damper สีทองน้ำหนักกว่า 600 ตัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ตึกไทเป 101 มีความปลอดภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือลมพายุแรงๆ ที่มักเกิดขึ้นในไต้หวันค่ะ คือถ้าเกิดตึกมีการเอนไปทางใดทางหนึ่ง Damper ก็จะถ่วงน้ำหนักไปอีกทางค่ะ โดยเราสามารถเห็นลูก Damper และระบบโช้คอัพ (Shock Absorber) ที่ช่วยในการซับแรงกระแทกและลดแรงสั่นสะเทือนให้กับลูก Damper หากเกิดการแกว่งขึ้นมาได้อย่างใกล้ชิดเลยนะคะ แล้วจากชั้น 88  เราสามารถเดินขึ้นไปที่ชั้น 91 เพื่อชมวิว Outdoor ได้ด้วยค่ะ แต่โซนนี้จะเปิดเฉพาะช่วงที่อากาศดีนะคะ มีฝนจะไม่เปิดค่ะ ถ้าออกไปจากตรงนี้ นอกจากจะเห็นวิวแบบไม่มีกระจกกั้น (แต่เขาก็มีเหล็กกั้นเป็นซีกๆเพื่อความปลอดภัยน้า) เรายังสามารถหันกลับมามองยอดตึก 101 ได้ด้วยค่ะ  

(กรอบ) ที่ชั้น B1 ของห้างจะเป็นร้านอาหารและฟู้ดคอร์ทค่ะ ฟุ้ดคอร์ทของ 101 ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยนะคะ มีอาหารให้เลือกหลายเจ้า ที่นั่งก็เยอะ เทียบของห้างอื่นที่เคยทานมา ถือว่ากว้างที่สุดเลยล่ะ ถึงเดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะอยู่เหมือนกัน แต่เท่าที่เคยไปมา ก็ไม่เจอปัญหาไม่มีที่นั่งนะคะ นอกจากนี้ ที่ชั้นนี้ยังมีร้านของฝากอย่าง SUGAR&SPICE (糖村) และ Hsin Tung Yang (新東陽) ด้วยค่ะ  

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับตึกไทเป 101 ก็คือไฟที่เปิดด้านนอกตึกค่ะ ในวันปกติเขาจะเปิดไฟสีล้วนแยกสีไปตามวัน โดยวันจันทร์จะเป็นสีแดง วันอังคารสีส้ม วันพุธสีเหลือง วันอังคารสีเขียว วันศุกร์สีฟ้า วันเสาร์สีม่วง และวันอาทิตย์สีชมพูอมม่วงค่ะ แล้วถ้ามีโอกาสอะไรพิเศษๆ ก็จะมีการเปิดไฟสีสันที่แปลกตา หรือมีข้อความวิ่งให้ได้เห็นกันด้วยค่ะ  

สุดท้ายที่ต้องพูดถึงสักหน่อย ก็พลุปีใหม่ของตึกไทเป 101 ค่ะ ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองมาสัมผัสบรรยากาสกันดูสักครั้งนะคะ ปีหลังๆ มักมีข่าวว่าจะงดอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่เคยงดนะคะ แต่อนาคตก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไงถ้ามีโอกาสไปดูกันซักครั้งค่ะ พลุสวยน้า แค่เราถ่ายรูปไม่สวยเท่านั้นเอง กร๊าก 

เวลาที่ใช้ : 45-60 นาที (สำหรับชั้นชมวิว)  

ช่วงเวลา  11:00 – 21:30  ศุกร์-เสาร์ ปิด 22:00 (เวลาทำการห้าง)  

การเดินทาง : MRT Taipei 101/World Trade Center (R03) Exit 4  

เว็บไซต์: https://www.taipei-101.com.tw/