Home Blog Page 76

13 ของฝากยอดนิยมจากฮอกไกโด

เที่ยวฮอกไกโด ซื้ออะไรเป็นของฝากดี รวม 13 ของฝากยอดนิยมจากฮอกไกโด
เห็นน่ารักๆ แบบนี้ แท้จริงแล้วคือ กล่องดนตรี (Music Box) จาก Otaru Orgel Museum เหมาะจะซื้อกลับเป็นของฝากให้เพื่อนหรือญาติพี่น้องมาก ผู้ได้รับจะต้องทึ่งอย่างแน่นอน

คนไทยเราขึ้นชื่อเรื่องของฝาก ไปเที่ยวไหนก็ต้องช้อปของกินของใช้ ของที่ระลึกติดไม้ติดมือไปฝากเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องเสมอ มาดูกันว่าถ้าไปเที่ยวฮอกไกโดแล้วมีอะไรน่าซื้อฝากกันบ้าง เราคัดมาให้เน้นๆ เฉพาะของฝากขึ้นชื่อจากฮอกไกโด (แบบไม่รวมของที่ระลึกตามสถานที่สำคัญต่างๆ) ซื้อตามนี้ ไม่มีพลาดแน่นอน!

กล่องดนตรี (Music Box)

ภายในพิพิธภัณฑ์กลอ่งดนตรีโอตารุ ที่ที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาเมื่อมาเที่ยวฮอกไกโด
ภายในพิพิธภัณฑ์กลอ่งดนตรีโอตารุ ที่ที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาเมื่อมาเที่ยวฮอกไกโด

กล่องดนตรี (Music Box) จากเมืองโอตารุ ของฝากยอดนิยมเมื่อมาเที่ยวฮอกไกโด ของที่ซื้อฝากกันได้ก็มีตั้งแต่กล่องดนตรีที่ทำเป็นรูปต่างๆ เช่น นาฬิกา รูปสัตว์ ตุ๊กตา และอื่นๆ อีกมากมาย ราคาก็มีตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลายพัน ไว้ประดับบ้าน ฟังเอง ฝากคนสำคัญ (แฟน) หรือเป็นของขวัญก็ได้ คนไทยชอบซื้อกันมากๆ จาก พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Orgel Museum) ตรงห้าแยก Marchen Square ที่ใครๆ ที่มาเที่ยวฮอกไกโดก็ต้องไปกัน

 

เครื่องแก้ว (Glassware)

มาช้อปเครื่องแก้ว (Glassware) เป็นของฝากจากฮอกไกโด ภายในร้านเครื่องแก้ว Kitaichi
เครื่องแก้ว (Glassware) ภายในร้านเครื่องแก้ว Kitaichi

เครื่องแก้ว (Glassware) ก็เป็นอีกหนึ่งของฝากสวยๆ งามๆ จากร้านดังอย่าง Kitaichi (คิตะอิชิ) ถนนซาไกมาชิ เมืองโอตารุ ฮอกไกโด ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในข้อที่แล้วนั่นเอง ของมีทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ สนนราคาก็ตามขนาดและความซับซ้อนในการประดิดประดอย ถ้าเป็นเครื่องประดับก็พกพากลับบ้านสะดวก แต่ถ้าชิ้นใหญ่ ก่อนซื้อต้องนึกถึงตอนขนกลับนิดนึง หรืออีกที่ติดกันก็คือ Venetian Glass Museum พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วเวนิส ก็มีของทั้งขายและจัดแสดง

 

Shiroi Koibito (ชิโรอิ โคอิบิโตะ)

คุกกี้สอดไส้ช็อคโกแล็ต Shiroi Koibito ของบริษัท Ishiya หนึ่งในของฝากยอดนิยม จากฮอกไกโด

Shiroi Koibito (ชิโรอิ โคอิบิโตะ) เป็นบิสกิตสอดไส้ช็อกโกแลต มีทั้งแบบไส้ช็อกโกแลตนมธรรมดา (Milk Chocolate) และ ช็อกโกแลตขาว (White Chocolate) หรือแบบกล่องเดียวรวมสองอย่างก็มี ที่จริงแล้วสินค้าของบริษัท Ishiya นี่เค้ามีขนมอื่นๆ อีกหลายอย่าง แต่บิสกิตตัวนี้จัดว่าดังที่สุดแล้ว

 

ROYCE’ Potato Chip Chocolate

มันฝรั่งเคลือบช็อคโกแล็ต ROYCE' ของฝากดังจากฮอกไกโด
มันฝรั่งเคลือบช็อกโกแล็ต ROYCE’

ROYCE’ Potato Chip Chocolate ของฝากจากฮอกไกโด ช็อกโกแลต ROYCE’ มีสารพัดรูปแบบ ทั้งช็อกโกแลตแท่ง ช็อกโกแลตสด สอดไส้เหล้าต่างๆ หรือทำเป็นแท่ง เป็นชิ้น เป็นแผ่น ฯลฯ แต่ที่คนไทยรู้จักกันที่สุดคือ มันฝรั่งเคลือบช็อกโกแลต นอกจากนี้ยังมีช็อกโกแลตแบบอื่นๆ อีกมาก

 

Double Fromage

ของฝากจากฮอกไกโด ชีสเค้ก Double Fromage รสต้นตำรับ จากร้าน LeTAO เมืองโอตารุ หากจะซื้อกลับต้องระวังเรื่องวันหมดอายุให้ดีนะ!
ชีสเค้ก Double Fromage รสต้นตำรับ จากร้าน LeTAO เมืองโอตารุ

Double Fromage ชีสเค้กจากร้าน LeTAO (เลอเทา) ร้านดังของโอตารุ บางคนชอบเรียกว่าเป็นชีสเค้กใส่เข่ง (เพราะสานด้วยไม้ไผ่) รสดั้งเดิมจะมีเนื้อชีสเค้กสองชั้นที่ให้รสชาติและรสสัมผัสที่ต่างกัน นอกจากนี้ยังมีแบบใหม่ที่ชั้นบนเป็นรสช็อคโกแล็ต กับรสชาเขียวให้เลือก ซึ่งตัดเลี่ยนไปได้เยอะทีเดียว เวลาซื้อแนะนำว่าต้องซื้อที่สนามบินเท่านั้น เพราะชีสเค้กจะแช่แข็ง (freeze) มาแล้ว จึงต้องเก็บในที่เย็น โดยบรรจุในแพ็คน้ำแข็งแห้งทันทีเพื่อรักษารสชาติ เวลาจะทานค่อยปล่อยให้หายเย็นอย่างช้าๆ

 

Jaga Pokkuru Potato Sticks 

แนะนำของฝากสำหรับคนเที่ยวฮอกไกโด มันฝรั่ง POTATO FARM Jaga Pokkuru
ของฝากจากฮอกไกโด Jaga Pokkuru หนึ่งกล่องบรรจุเอาไว้หลายซองเล็กๆ แต่คุณภาพมันฝรั่งคับถุง

Jaga Pokkuru Potato Sticks ในบรรดามันฝรั่งแท่ง ยี่ห้อที่นิยมกันมากและหาง่ายที่สุดก็คือของ Calbee (คาลบี้) เจ้าเดียวกับที่ผลิตข้าวเกรียบกุ้งอบกรอบที่มีขายในเมืองไทยมานาน มันฝรั่งนี้คนไทยซื้อกันมากเสียจน ทางคาลบี้เองอาจจะมาผลิตขายในเมืองไทยด้วยเลย วางขายภายใต้ชื่อแบรนด์มันฝรั่ง POTATO FARM (โปเตโต้ฟาร์ม)

 

Marusei Butter Sandwich

Marusei Butter Sandwich ของ Rokkatei แห่งเมือง Obihiro
Marusei Butter Sandwich ของ Rokkatei แห่งเมือง Obihiro

Marusei Butter Sandwich แซนด์วิชเนย เป็นบิสกิตที่ประกบแล้วสอดไส้ครีมไวท์ช็อคโกแล็ต ลูกเกด และเนย ผลิตโดยบริษัท Rokkatei แห่งเมือง Obihiro ถิ่นขนมหวานขึ้นชื่อของฮอกไกโดนั่นเอง ชื่อ Marusei นี้ก็มาจากเนยที่ผลิตในแถบ Tokachi ทางตะวันออกของฮอกไกโดนั่นเอง

 

Strawberry Chocolate Ball

Strawberry Chocolate Ball ของบริษัท Rokkatei เช่นเดียวกัน มีให้เลือกทั้งแบบช็อคโกแล็ตขาวและดำ ทั้งสองแบบสอดไส้เป็นสตรอเบอรี่ทั้งลูกเหมือนกัน เวลากินจะได้รสเปรี้ยวเข้ากับรสหวานพอดีของช็อคโกแล็ต

 

Choux cream (ชูว์ครีม)

สุดยอดของฝากจากฮอกไกโด Choux cream (ชูว์ครีม) จาก ร้าน Kitakaro แห่งเมืองโอตารุ
แนะนำของฝากจากฮอกไกโด Choux cream (ชูว์ครีม) จาก ร้าน Kitakaro แห่งเมืองโอตารุ

Choux cream (ชูว์ครีม) จาก ร้าน Kitakaro แห่งเมืองโอตารุ ที่ขายสำหรับนั่งทานในร้านบางทีมีไส้ครีมแบบคลาสสิกอย่างเดียว แต่ถ้าซื้อกลับบ้านอาจเลือกได้หลายอย่าง เช่น ช็อกโกแลต และอื่นๆ แต่ต้องเก็บในที่เย็นตลอดไม่งั้นอาจเสียได้ โดยเฉพาะในหน้าร้อน

 

Snaffle’s Cheesecake (Catchcake)

แนะนำของฝากจากฮอกไกโด Snaffle’s Cheesecake (Catchcake) รสยอดนิยมคือรสชีสออมเล็ต (Cheese Omelette)
Snaffle’s Cheesecake ชีสเค้กชื่อดังจากเมืองฮาโกดาเตะ มีชื่อเฉพาะเรียกว่า Catchcake

Snaffle’s Cheesecake ชีสเค้กชื่อดังจากเมืองฮาโกดาเตะ มีชื่อเฉพาะเรียกว่า Catchcake แพ็กเป็นชิ้นเล็กๆ ทานทีละน้อยได้หมดในไม่กี่คำ นอกจากรสยอดนิยมคือ รส Cheese Omelette แล้ว ยังมีรส Steamed Chocolate และรส Caramel Catchcake ให้เลือก

 

Melon Cake & Melon Jelly ผลิตภัณฑ์จากเมลอน

Yubari Melon Pure Jelly ขนมเจลลี่รสยูบาริเมล่อน รสชาติเหมือนทานเมล่อนชุ่มฉ่ำอยู่จริง ๆ
Yubari Melon Pure Jelly ขนมเจลลี่รสยูบาริเมล่อน

ไม่ว่าจะ Melon Cake หรือ Melon Jelly ผลิตภัณฑ์จากเมลอนรสเลิศของฮอกไกโด ได้กลิ่นเมลอนหอมๆ เต็มปากเต็มคำ

 

Kit Kat

Kit Kat Strawberry ของฝากยอดนิยมจากฮอกไกโด
Kit Kat Strawberry – จาก Wikipedia

Kit Kat ช็อคโกแล็ตสอดไส้ยี่ห้อนี้ใครๆ ก็รู้จัก ไปญี่ปุ่นทั้งทีต้องซื้อคิทแคทชาเขียว หรือรสอื่นๆ เช่น สตรอเบอรี่ บลูเบอรรี่ชีสเค้ก ฯลฯ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ของ original จากฮอกไกโดก็ตาม แต่ติดไม้ติดมือไปบ้างก็ไม่เสียหายอะไร ให้ใครก็ไม่มีปฏิเสธ วางตรงไหนก็พรึบเดียวหมดทุกทีนี่นา

 

อาหารทะเลแพ็กสำเร็จ

อาหารทะเลแพ็กสำเร็จ เช่น ไข่ปลาแซลมอน หอยเชลล์อบแห้ง ฯลฯ หาซื้อได้ที่ สนามบิน New Chitose Airport เช่นกัน มีมากมายหลายร้าน แต่ถ้าไฟลต์เช้าต้องรีบไปนิดหนึ่ง เพราะร้านทั้งหมดอยู่ฝั่งอาคารผู้โดยสารในประเทศ (Domestic Terminal Building) ซึ่งค่อนข้างไกลจากฝั่งอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (International Terminal Building) กว่าจะซื้อแล้วเดินมาฝั่งอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศก็ไกลถึงครึ่งกิโล

นอกจากนี้แล้วฮอกไกโดยังมีของฝากทั้งขนมและอื่นๆ อีกมากมาย และก็ยังมีคิดออกมาใหม่เรื่อยๆ เพื่อดูดเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวอย่างเราให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

สำหรับของฝากที่เป็นของกินหรือที่ต้องเก็บในที่เย็น แนะนำว่าให้มาเลือกซื้อที่ สนามบิน New Chitose Airport ตอนขากลับเลยถ้ามีเวลาพอ โดยเดินไปฝั่งอาคารผู้โดยสารในประเทศ (Domestic Terminal Building) จะมีแหล่งรวมร้านขายทั้งของคาวและขนมหวานขนาดใหญ่หลายสิบร้านให้เลือก แต่ถ้าไฟลต์เช้ามากเกินไป ร้านอาจยังไม่เปิดหรือซื้อไม่ทัน ก็ต้องซื้อใส่ตู้เย็นที่โรงแรมไว้ก่อน 

***ข้อควรระวัง!*** หลายโรงแรมมักตัดไฟทั้งห้องเวลาเราดึงกุญแจออกไปข้างนอก และหลายที่ตัดไฟที่ตู้เย็นด้วย ของที่ซื้อมาจะพาลเสียเอาง่ายๆ

ข้อมูล เรื่อง และภาพ: วศิน เพิ่มทรัพย์ DPlus Guide Team | ขอบคุณภาพ Cheese Omelette จาก: www.snaffles.jp

ข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่น รวมสารพัดวิธีเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว

รถไฟด่วนสาย N'EX หรือ Narita Express

บทความนี้จะรวมสารพัดวิธีเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว ทั้งรถด่วน รถไฟ และรถบัส และวิธีซื้อตั๋วที่มีหลากหลาย แถมบางทีก็พ่วงตั๋วรถไฟใต้ดินเข้ามาด้วย เล่นเอาคนเดินทางงงไปหมด แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้ยุ่งขนาดนั้น (แค่มีทางเลือกเยอะไปหน่อย ^_^) ลองมาดูกันนะครับ แต่อย่างแรกเลยต้องรู้จักสนามบินก่อน

การเดินทางจากเมืองไทยไปโตเกียว จะลงที่สนามบินนานาชาติหนึ่งในสองแห่งคือ  สนามบินนาริตะ (Narita International Airport) เป็นสนามบินนานาชาติที่สร้างขึ้นใหม่หลัง สนามบินฮะเนะดะ (Haneda) ที่เดิมให้บริการแต่ในประเทศ เทียบกับบ้านเรานาริตะก็เหมือนสุวรรณภูมิ ในขณะที่ฮะเนะดะเหมือนดอนเมือง ส่วนที่เหมือนกันอีกอย่างคือ นาริตะอยู่ห่างโตเกียวออกมาทางตะวันออกราว 60 กม. เข้าไปอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดติดกันคือจิบะ (Chiba) ในขณะที่ฮะเนะดะอยู่ชานเมืองโตเกียวทางใต้เลย (ใกล้กว่าเยอะ) แต่ว่าเดิมมีเฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศ เพิ่งจะสร้างอาคารผู้โดยสารต่างประเทศและเปิดบริการเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง

สนามบินนาริตะ (ภาพจาก Wikipedia)
สนามบินนาริตะ (ภาพจาก Wikipedia)

ยกตัวอย่างสายการบินยอดนิยมสำหรับคนเที่ยวญี่ปุ่น สายการบินราคาประหยัดอย่าง Thai AirAsia X จะลงที่นาริตะเป็นหลัก ส่วน การบินไทย จะมีให้เลือกเที่ยวบินที่ลงทั้งสองสนามบิน

สนามบินนาริตะปัจจุบันมี 3 เทอร์มินัล ถ้าเป็นรถบัสก็จะมีป้ายจอดครบทั้ง 3 เทอร์มินัล แต่ถ้าเป็นรถไฟจะมีสถานีและรางไปถึงแค่เทอร์มินัล 1 และ 2 เท่านั้น ใครจะไปเทอร์มินัล 3 จะต้องไปที่เทอร์มินัล 2 ก่อนแล้วค่อยต่อไป 3 โดยเดินตามทางเชื่อมหรือนั่งรถชัตเติลบัส (ฟรี) ต่ออีกประมาณ 15 นาที ดังนั้นจึงต้องเผื่อเวลาไว้มากกว่าเทอร์มินัลอื่นนิดหน่อย

จากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว

การเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว หรือไปยังเมืองรอบๆ เช่น จิบะ (Chiba), โยโกฮามะ (Yokohama), คาวาซากิ (Kawasaki) ฯลฯ ทำได้หลายวิธี ซึ่งหลักๆ คือ

รถไฟสายต่างๆ จากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว
รถไฟสายต่างๆ จากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว

รถไฟด่วน Narita Express (N’EX)

เส้นทางรถไฟสาย Narita Express บนแผนที่จริง
เส้นทางรถไฟสาย Narita Express บนแผนที่จริง

รถไฟด่วน Narita Express (N’EX) เป็นของบริษัท JR (คือการรถไฟญี่ปุ่นที่แปรรูปเป็นบริษัทเอกชนแล้วนั่นเอง) จากสนามบินเข้าเมืองโดยจะไปพบกับรถไฟ (บนดิน) รอบเมืองสายวงแหวนหรือ Yamanote Line ที่ สถานี Tokyo (ตอนกลางทางตะวันออกของเมืองโตเกียว) และมีวิ่งต่อไปถึงสถานี Shibuya กับ Shinjuku อีกฟากหนึ่งคือทางตะวันตกของเมืองโดยไม่ต้องต่อรถ

วิธีนี้แนะนำสำหรับคนที่จะเข้าใจกลางเมืองโตเกียวที่อยู่ใกล้หรือต่อรถไฟสายามาโนเตะไปได้ เพราะรถไฟ N’EX จะวิ่งรอบเมืองอ้อมไปให้เลยโดยไม่ต้องต่อรถอีกไกลนัก และสำหรับคนที่ซื้อตั๋ว JR Pass แล้วมีวันที่ใช้ได้เหลือ ไม่ว่าจะเป็นวันไปหรือวันกลับก็ตาม ต้องเลือกนั่ง N’EX เลยเพราะใช้ได้ฟรี

รถไฟเอกชนสาย Keisei Skyliner และอื่นๆ

รถไฟ Keisei ทั้งสามแบบคือ Skyliner, Access Express และ Keisei Main Line
รถไฟ Keisei ทั้งสามแบบคือ Skyliner, Access Express และ Keisei Main Line

รถไฟเอกชนสาย Keisei Skyliner และอื่นๆ มีสองเส้นด้วยกัน เส้นหนึ่งวิ่งไปทางเหนือของโตเกียว เชื่อมต่อกับสายวงแหวน Yamanote ที่ สถานี Nippori และ สถานี Ueno หรืออีกเส้นแยกวิ่งผ่านด้านตะวันออกของโตเกียวแถบ Tokyo Skytree (สถานี Oshiage ไล่ไปจนถึง Higashi Ginza – รายละเอียดดูชื่อสถานีในรูป) แล้วลงทางใต้จนไปเชื่อมต่อกับสาย Yamanote ที่ สถานี Shimbashi และ สถานี Shinakawa จากนั้นสายนี้จะวิ่งต่อไปจนถึง สนามบินฮะเนะดะ (Haneda Airport) ด้วย วิธีนี้แนะนำสำหรับคนที่จะไปพักแถวทางเหนือ ตะวันออก หรือทางใต้ของโตเกียว หรือจะไปต่อเที่ยวบินภายในประเทศที่สนามบินฮะเนะดะ

รถไฟธรรมดาของ JR (Local Train)

รถไฟธรรมดาของ JR (Local Train) รถไฟแบบนี้จะวิ่งตามเส้นทางรถไฟสาย Narita และ Sobu Line เช่นเดียวกับ N’EX โดยผ่านและแวะจอดที่ตัวจังหวัด Chiba ด้วย แต่โดยรวมจะช้าและจอดบ่อยกว่า N’EX มาก (ประมาณ 85 นาทีถึงสถานี Tokyo) ไม่แนะนำให้ใช้เข้าเมืองโตเกียว เหมาะกับกรณีจะไปพักแถวจังหวัด Chiba หรือใกล้เคียง เช่น Disney Resort มากกว่า

รถบัส

Tokyo Airport Limousine Bus
Tokyo Airport Limousine Bus – ภาพจาก Wikipedia

รถบัสที่วิ่งระหว่างสนามบินนาริตะกับเมืองโตเกียวและรอบๆ มีผู็ให้บริการหลายเจ้า เช่น Airport Limousine Bus, Keisei Bus (คือบริษัทที่ทำรถไฟไปสนามบินด้วยนั่นเอง), Access Narita เป็นต้น บริการหลักๆ ก็ใกล้เคียงกัน คือเป็นรถบัสปรับอากาศแบบนั่งสบาย มีที่เก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใต้ท้องรถ มีให้เลือกใช่้หลายสาย วิ่งจากสนามบินนาริตะตรงถึงแต่ละโซนในโตเกียวและรอบๆ โดยมักจอดตามจุดที่มีโรงแรมใหญ่ๆ 5-6 ป้ายต่อสาย ใช้เวลาประมาณ 1 -2 ชั่วโมง หรือช้ากว่านั้นแล้วแต่ระยะทางที่จะไปและสภาพการจราจร ค่าโดยสารแต่ละสายอาจแตกต่างกันไปตามระยะทาง

เห็นภาพรวมย่อๆ กันแล้ว สำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดการเดินทางแต่ละวิธี ก็ตามมาอ่านกันได้ ดังนี้

1. รถไฟด่วน N’EX (Narita Express)

ออกจาก Terminal 1 แวะ Terminal 2 (Thai AirAsia X ลง Terminal 2 ส่วนการบินไทยลง Terminal 1) ใช้เวลาประมาณ 55 นาทีถึงสถานีโตเกียว (JR Tokyo) โดยสถานีรถไฟจะอยู่ชั้น B1 ทั้งสองเทอร์มินัล

รายละเอียดและตารางเวลาดูที่ www.jreast.co.jp/e/nex/

เส้นทางทั้งหมดของ Narita Express (N'EX) แต่ไม่รวมที่วิ่งไป Kawaguchiko
เส้นทางทั้งหมดของ Narita Express (N’EX) แต่ไม่รวมที่วิ่งไป Kawaguchiko

ข้อดี

  • ใช้ตั๋ว JR Pass ได้ โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มเลย อันนี้เป็นข้อดีที่ชัดเจนสุด
  • รถออกบ่อย ชั่วโมงละประมาณ 2 ขบวน
  • มีที่วางกระเป๋าใบใหญ่ พร้อมที่ล็อคกันกระเป๋าไหลแบบใส่รหัสได้ ซึ่งจัดเตรียมไว้มากพอสมควร
  • ปกติ N’EX จะวิ่งจากสนามบินนาริตะเข้ามาถึงสถานีโตเกียว รวดเดียวโดยไม่แวะจอดเลยแล้ววิ่งวนตามสาย Yamanote รอบเมือง แวะสถานีใหญ่อย่าง Shibuya ไปจนถึงอีกฟากหนึ่งของเมืองอย่างสถานี Shinjuku ด้วย (ช่วงเช้าหรือเย็นอาจมีขบวนที่วิ่งต่อออกไปนอกเมืองทางใต้ผ่าน Yokohama จนถึง Ofuna หรือทางตะวันตกผ่าน Kichijoji จนถึง Takao ด้วย)
  • บางช่วงเช่นในหน้าร้อน บางขบวนอาจวิ่งเลยไปถึงแหล่งท่องเที่ยวอีกฝั่งหนึ่งของโตเกียว เช่น ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchi) ด้วย (โดยวิ่งต่อบนรางของรถไฟเอกชนสาย Fuji-Q เริ่มจาก Otsuki ไปถึงสถานี Kawaguchigo)
  • เป็นระบบต้องจองที่นั่งทุกที่ (จองได้ที่สถานี) จึงไม่ต้องห่วงเรื่องรถเต็ม ต้องยืนฯลฯ

ข้อเสีย

  • ไม่มีโปรโมชั่นราคาพิเศษเมื่อซื้อร่วมกับตั๋วรถไฟอื่นๆ เช่น ตั๋วรถใต้ดิน (Tokyo Metro) เหมือนตั๋วรถไฟ Keisei
  • ราคาค่อนข้างสูงเทียบกับรถไฟธรรมดา เช่น สนามบินนาริตะ-โตเกียว เที่ยวเดียว ค่าโดยสารประมาณ 3,200 เยน (แต่ถ้าเลือกใช้ทั้งขาไปและกลับ จะมีโปรโมชั่นลดเหลือแค่ 4,000 เยนเท่านั้น ซึ่งถูกกว่าตั๋วไปกลับของรถไฟ Keisei Skyliner อีก)

2. รถไฟเอกชนสายเคเซ (Keisei)

รถไฟเอกชนสายเคเซ (Keisei) เป็นของบริษัทเอกชน จริงๆ มีรถไฟหลายสาย โดยจะวิ่งบนรางของตัวเองต่างหาก (หรือบางทีก็ตกลงใช้รางร่วมกับรถไฟ JR หรือบริษัทรถไฟเอกชนรายอื่นๆ เป็นบางช่วง) สถานีก็แยกต่างหาก แต่บางทีก็อยู่ใกล้หรือติดกับของ JR เลย จึงต้องตั้งชื่อให้แตกต่างโดยเติม Keisei- นำหน้าเข้าไป เช่น Keisei-Narita อยู่ติดกับสถานี (JR) Narita ระยะประมาณ 100 ม. เดินถึงกันได้เลย เป็นต้น ส่วนที่สนามบินนั้นสถานีรถไฟ Keisei กับ JR จะอยู่ติดกันเลยคือที่ชั้น B1 ของทั้งสองเทอร์มินัล

รายละเอียดและตารางเวลาดูที่ www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/us/

สำหรับรถไฟที่วิ่งไป-กลับสนามบินนาริตะกับโตเกียวของบริษัท Keisei นี้จะมีหลายแบบคือ

2.1 Keisei Skyliner

เส้นทางรถไฟสาย Keisei Skyliner
เส้นทางรถไฟสาย Keisei Skyliner

Keisei Skyliner เป็นรถไฟที่คุยว่าเร็วที่สุดถ้าไม่นับ Shinkansen คือเร็วถึง 160 กม./ชม. วิ่งระหว่าง Terminal 1 และ 2 สนามบินนาริตะมาที่สถานี Nippori บนวงแหวนสาย Yamanote ทางเหนือของโตเกียว ใช้เวลาเพียง 36 นาที (ไม่แวะจอดระหว่างทาง) และต่อมาสุดสายที่สถานี Ueno ใช้เวลาเพิ่มอีก 5 นาที รวมเป็น 41 นาทีเท่านั้น ซึ่งมีข้อควรทราบดังนี้

  • ค่าโดยสารแบบเที่ยวเดียวถูกกว่า Narita Express (N’EX) ของ JR คือประมาณ 2,470 เยน (ถึงสถานี Ueno) และเร็วกว่า (แต่ใช้ JR Pass ไม่ได้)
  • ส่วนลดค่าโดยสาร มีหลายกรณีคือ
    • ค่าโดยสารเที่ยวเดียวกับไปกลับไม่มีส่วนลด แต่หากใช้บัตรเติมเงิน (IC Card) เช่น Suica หรือ Pasmo จะถูกลงไปอีกนิดหน่อยเที่ยวละ 3-5 เยน
    • แต่หากซื้อรวมกับตั๋วรถไฟใต้ดิน Tokyo Subway Pass แบบ 24, 48 หรือ 72 ชั่วโมง (ราคาเต็ม 800, 1,200 และ 1,500 เยนตามลำดับ ใช้กับรถไฟใต้ดินในเขตโตเกียวทั้งของ Tokyo Metro และ Toei รวม 13 สาย) จะมีส่วนลดตามรูป ซึ่งจะซื้อดีหรือไม่ก็ขึ้นกับแผนการเดินทางของคุณละครับว่าจะวนๆ อยู่ในโตเกียวหรือออกไปเที่ยวข้างนอกกี่วัน ถ้าวนๆ อยู่ในเมืองก็น่าจะจำเป็นต้องใช้รถใต้ดิน ซื้อเลยก็น่าจะดี วันนึงนั่งสัก 2-3 ครั้งในระยะทางไกลหน่อยก็คุ้มแล้ว (ซึ่งตั๋ว Tokyo Subway Pass ราคานี้ต้องซื้อมาจากสนามบิน มาหาซื้อในเมืองจะยากและแพงกว่า คือเริ่มที่ 24 ชั่วโมง 1,000 เยน) กรณีซื้อรวมกับตั๋ว Skyliner จะสามารถซื้อผ่านเว็บได้ที่
      www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/e-ticket/en/ เลือก Keisei Skyliner & Tokyo Subwey Ticket
ราคาตั๋ว Keisei Skyliner พร้อม Tokyo Metro แบบ 24 ชั่วโมง, 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง
ราคาตั๋ว Keisei Skyliner พร้อม Tokyo Metro แบบ 24 ชั่วโมง, 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง
  • นอกจากนี้ยังมีส่วนลดสำหรับกรณีซื้อตั๋วล่วงหน้าเช่น ออนไลน์ผ่านเว็บ (e-ticket ที่ www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/e-ticket/en/ เช่นเดียวกันเลือก Skyliner Discount Ticket) ผ่านเอเย่นต์ (ในเมืองไทยคือ H.I.S.) หรือซื้อบนเที่ยวบินที่ไปญี่ปุ่นเลย (ส่วนมากเป็น Low-cost Airline เช่น Thai AirAsia X) ตามรูป
ราคาตั๋ว Keisei SKyliner แบบซื้อล่วงหน้าแล้วมีส่วนลด
ราคาตั๋ว Keisei SKyliner แบบซื้อล่วงหน้าแล้วมีส่วนลด
  • มีที่วางกระเป๋าขนาดใหญ่ ที่นั่งสบายกว้างขวาง หันหน้าไปทางเดียวกันคือหัวขบวน
  • ถ้าจะเดินทางต่อไปที่อื่น ต้องไปต่อรถไฟ JR ที่สถานี Nippori หรือ Ueno บนสายวงแหวน Yamanote (ส่วนนี้ใช้ JR Pass ได้ หรือจ่ายเองก็ไม่แพง แต่อาจต้องลากกระเป๋าบ้าง)

2.2 Keisei Narita Sky Access Express

เส้นทางรถไฟสาย Keisei Access Express มีแยกไปทั้งเหนือและใต้ของโตเกียว
เส้นทางรถไฟสาย Keisei Access Express มีแยกไปทั้งทางเหนือและทางใต้ของกรุงโตเกียว

Keisei Narita Sky Access Express วิ่งเส้นทางเดียวกับ Skyliner แต่มีแยกเป็นสองทางคือ สายที่ไป Nippori / Ueno (ทางเหนือของโตเกียว) กับสายแยกที่ไป Simbashi / Shinagawa / สนามบิน Haneda (ทางใต้ของโตเกียว) ซึ่งระหว่างทางจะผ่านสถานี Oshiage (Tokyo Skytree) และ Higashi-Ginza (ทางตะวันออกของย่านกินซ่า) ด้วย (ใช้รางของรถไฟสายอื่น)

  • กรณีไป Nippori / Ueno ใช้เวลาพอๆ กับ Skyliner (แต่นั่งไม่สบายเท่า เพราะที่นั่งเป็นแบบรถไฟใต้ดิน คือสองฝั่งหันหน้าหากัน และไม่มีที่วางกระเป๋า)
  • มีขบวนที่แยกวิ่งลงไปยังสนามบินฮะเนะดะ (Haneda) ชานเมืองโตเกียวทางใต้ด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่ต่อรถน้อยที่สุดในการเดินทางระหว่างสองสนามบิน (แต่อาจใช้เวลาไม่แตกต่างจากเส้นทางอื่นมากนัก)
  • ค่าโดยสารถูกกว่า Keisei Skyliner เกือบครึ่ง คือจากนาริตะถึงสถานี Nippori และ Ueno แค่ 1,240 เยนเท่านั้น ส่วนถ้าไปทางตอนใต้ของโตเกียว ถึงสถานี Shinagawa และสนามบินฮะเนะดะก็แค่ 1,520 เยนเท่านั้น

2.3 Keisei Main Line

เส้นทางรถไฟสาย Keisei Main Line ราคาประหยัดที่สุด
เส้นทางรถไฟสาย Keisei Main Line ราคาประหยัดที่สุด

Keisei Main Line คือรถไฟธรรมดาของสาย Keisei วิ่งเส้นทางใกล้เคียงกับ Access Express ที่ไป Nippori และ Ueno ทางเหนือของโตเกียว แต่คนละรางกันจึงวิ่งได้ช้ากว่าเยอะ และมีแยกไปทางตอนใต้คือ Shimbashi, Shinagawa และสนามบินฮะเนเดะเช่นเดียวกัน (ใช้รางของรถไฟสายอื่น)

  • จอดค่อนข้างถี่ (15 สถานี) และใช้เวลานาน (73 นาทีถึง Nippori และ 78 นาทีถึง Ueno)
  • ค่าโดยสารถูกกว่า Access Express ลงไปอีกประมาณ 200 เยน คือไป Ueno ทางเหนือประมาณ 1,030 เยน และไป Shinagawa ทางใต้ 1,330 เยนเท่านั้น
  • ที่นั่งแบบรถไฟใต้ดิน คือสองฝั่งหันหน้าหากัน และไม่มีที่วางกระเป๋า

3. รถไฟ JR สาย Sobu/Narita Line 

รถไฟ JR สาย Sobu/Narita Line เป็นรถไฟธรรมดาที่วิ่งบนเส้นทางเดียวกับ N’EX แต่จอดบ่อย (16 ครั้ง) และวิ่งช้ากว่า (ใช้เวลาประมาณ 90 นาที รวมเวลารถจอดรอที่สถานี Chiba ประมาณ 2-4 นาที) ผ่านสถานี Tokyo และมุ่งหน้าไปทาง Chiba และ Yokohama จนไปสุดสายที่ Kurihama ทางใต้ของโตเกียว เป็นทางเลือกสำหรับคนที่จะไม่เข้าโตเกียวโดยตรง

  • ใช้ JR Pass ได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ถึงไม่มี JR Pass ค่าโดยสารก็ยังถูกกว่า N’EX เกินครึ่ง คือประมาณ 1,300 เยน
  • ไม่มีการจองที่นั่ง ถ้ารถแน่นอาจต้องยืน
  • ไม่มีที่วางกระเป๋าเดินทางใหญ่ๆ
  • ไม่มีโปรโมชั่นราคาพิเศษเมื่อซื้อร่วมกับตั๋วรถไฟอื่นๆ เช่น ตั๋วรถใต้ดิน (Tokyo Metro)
  • รายละเอียดแต่ละสายและตารางเวลาดูได้จากเว็บ www.hyperdia.com เลือกสถานีต้นทาง Narita Airport Terminal 1 หรือ 2 และปลายทางเป็นสถานี Tokyo (หรือสถานีอื่นๆ ที่ต้องการ)

4. รถบัส

อย่างที่บอกไว้ตอนต้นแล้วว่าจากสนามบินนาริตะมีผู้ให้บริการหลายราย ซึ่งแต่ละรายก็มีตารางเวลา เส้นทาง และอัตราค่าโดยสารแตกต่างกันออกไป แต่ข้อดีข้อเสียของบัสโดยรวมก็คือ

  • มีเส้นทางหลากหลายครอบคลุมกว่ารถไฟ คือถ้าเลือกสายรถดีๆ โดยดูแผนที่ว่าที่พักของเราอยู่ย่านไหน และสายไหนใกล้เคียงที่สุดแล้ว การนั่งรถบัสไปลงป้ายให้ใกล้ที่พักที่สุดชนิดที่ว่าลงแล้วเดินนิดเดียวถึงเลยก็อาจเป็นไปได้ (ปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ได้)
  • สิ่งที่ค่อนข้างทำให้เสียเวลาที่สุดคือรถติด และการที่ต้องแวะรับส่งคนหลายๆ จุดหลายๆ ป้าย กว่าจะวิ่งตรงมาถึงสนามบิน หรือขาออกจากสนามบินไปถึงป้ายสุดท้ายได้ ซึ่งอาจเพิ่มเวลาไปอีกหลายสิบนาทีถึงครึ่งชั่วโมง แล้วแต่จุดที่คุณจะขึ้นลงว่าเป็นป้ายแรกหรือป้ายหลังๆ
  • ข้อดีอย่างหนึ่งของรถบัสคือ เราไม่ต้องยกกระเป๋าขึ้นลงเหมือนรถไฟ เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยยกขึ้นลงให้ (แต่อย่าลืมว่ากระเป๋าที่มีของมีค่า สำคัญ หรือแตกหักได้ต้องถือติดตัวขึ้นไป ส่วนกระเป๋าใหญ่ที่โหลดใต้ท้องรถบัสก็คือใบเดียวกับที่จะโหลดขึ้นเครื่องบิน) และหากเลือกสายที่มีป้ายอยู่ใกล้โรงแรม ดีไม่ดีอาจจะเดินลากกระเป๋าใกล้กว่าเดินจากสถานีรถไฟหรือรถใต้ดินก็เป็นได้
  • การซื้อตั๋ว ขาไปจากสนามบิน ให้ซื้อที่เคาน์เตอร์ของรถบัสได้เลย ส่วนขากลับถ้าเป็นป้ายใหญ่มักจะมีเจ้าหน้าที่มารอตลอด ก็มาซื้อที่ป้ายได้เลย โดยอาจมาซื้อไว้ก่อนเวลาหลายๆ ชั่วโมงก็ได้เพื่อให่แน่ใจว่าเที่ยวที่ต้องการมีที่ว่างแน่ๆ ถึงตอนใกล้ๆเวลาแล้วค่อยมารอขึ้นรถอีกที แต่ถ้าเป็นป้ายเล็กหน้าโรงแรมบางแห่งอาจไม่มีเจ้าหน้าที่รถบัสประจำตลอด ก็สามารถสอบถามตารางเวลาและให้เจ้าหน้าที่โรงแรมนั้นๆ ช่วยจองที่นั่งให้ได้ แล้วค่อยซื้อตั๋วตอนขึ้นรถอีกที

รายละเอียดเพิ่มเติมว่ามีรถบัสสายไหน บริษัทไหน วิ่งไปไหนบ้าง และที่สำคัญคือขึ้นที่ป้ายเบอร์อะไรนั้น ดูได้ที่เว็บของสนามบินนาริตะ www.narita-airport.jp/en/access/bus/index.html ส่วนรายละเอียดของแต่ละบริษัทคร่าวๆ มีดังนี้

Airport Limousine Bus

แผนที่แสดงป้ายจอดรถจุดต่างๆ ของ Airport Limousine Bus สาย Shinjuku
แผนที่แสดงป้ายจอดรถจุดต่างๆ ของ Airport Limousine Bus สาย Shinjuku

รถบัส Airport Limousine เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่มีเส้นทางครอบคลุมพื้นที่หลักๆ ค่อนข้างมาก รถบัสสีส้มอย่างที่เห็นในรูปข้างบนนั่นก็คือของเจ้านี้ทั้งหมดแหละ มีรถวิ่งระหว่างสนามบินทั้งสองแห่งคือ Haneda และ Narita กับพื้นที่ครอบคลุมทั่วโตเกียว รวมถึงจุดสำคัญๆ รอบๆ เมือง เช่น Shinjuku, Shibuya, Yokohama, Tokyo Disney Resort, Ikebukuro เป็นต้น โดยแต่ละสายจะมีตารางเวลาและเที่ยวสุดท้ายไม่เท่ากัน โดยทั่วไปจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมงแล้วแต่ระยะทางและสภาพการจราจร ส่วนค่าโดยสารมักจะอยู่ประมาณ 2,700 – 3,500 เยน

รายละเอียดแต่ละสายและตารางเวลาดูที่ www.limousinebus.co.jp/en/bus_services/narita/index หรือที่ www.limousinebus.co.jp/en > เลือก Narita Airport Routes

Keisei Bus Airport Express

Keisei Bus เป็นผู้ให้บริการบริษัทเดียวกับที่ทำรถไฟ Keisei นั่นเอง มีเส้นทางให้เลือกมากพอสมควร และครอบคลุมพื้นที่ทั่วโตเกียวรอบๆ ไปจนถึงแถบสวนสนุก Fuji-Q และทะเลสาบ Kawaguchiko รวมทั้งบริการ Tokyo Shuttle ที่วิ่งระหว่างสนามบินนาริตะกับสถานี  Tokyo และย่าน Ginza ด้วยในราคาประหยัดเพียง 1,000 เยนต่อเที่ยวเท่านั้น (ซื้อตั๋วล่วงหน้าลดเหลือ 900 เยนด้วย ส่วนตั๋วไปกลับ 1,900 เยน) โดยขาเข้าเมืองจากสนามบินนาริตะขึ้นที่ป้ายดังนี้

  • เทอร์มินัล 1 ขึ้นที่ป้ายเบอร์ 31
  • เทอร์มินัล 2 ขึ้นที่ป้ายเบอร์ 2 หรือ 19
  • เทอร์มินัล 3 ขึ้นที่ป้ายเบอร์ 1

ส่วนในเมืองที่สถานี Tokyo จะจอดที่ป้ายห่างจากทางออกฝั่งตะวันออก (Yaesu North exit) ของสถานีขึ้นไปประมาณ 200 เมตร (ดังรูป) ส่วนตารางเวลาและแผนที่ป้ายอื่นๆ ที่จอด ดูได้ที่เว็บ www.keiseibus.co.jp/en/kousoku/nrt16.html

ป้ายจอดรถ Tokyo Shuttle ของ Keisei Bus บริเวณทางออกฝั่ง Yaesu สถานีโตเกียว
ป้ายจอดรถ Tokyo Shuttle ของ Keisei Bus บริเวณทางออกฝั่ง Yaesu สถานีโตเกียว – ภาพจาก Keiseibus.co.jp

ล่าสุดมีตั๋วแบบที่ขายรวมกับ Tokyo Subway Pass ทั้งแบบ 24, 48 และ 72 ชั่วโมงด้วย (สังเกตว่าราคาไม่ต่างจากซื้อแยกมากนัก เช่นไม่ลดเลย หรือลดไปประมาณ 100-200 เยนเท่านั้น เพราะตั๋ว Subway ราคาปกติจะอยู่ที่ราคา 800, 1,200 และ 1,500 เยน ตามลำดับ) ดังนี้

ราคาเมื่อซื้อตั๋ว Keisei Bus เที่ยวเดียวหรือไปกลับ พร้อมกับ Tokyo Subway Ticket แบบ 24, 36 หรือ 72 ชั่วโมง
ราคาเมื่อซื้อตั๋ว Keisei Bus เที่ยวเดียวหรือไปกลับ พร้อมกับ Tokyo Subway Ticket แบบ 24, 36 หรือ 72 ชั่วโมง

ดููรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.keiseibus.co.jp/global/en/index.html

Access Narita

เป็นบริการร่วมของบริษัท Aska Bus กับ JR Bus Kanto โดยมีเส้นทางให้เลือกแค่ไม่กี่สายสายเท่านั้น ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างสนามบินนาริตะ, โรงแรมโดยรอบ, สถานีรถใต้ดิน Ginza, สถานีรถไฟ JR Tokyo และห้าง Shinonome AEON (ย่านโอไดบะ) รายละเอียดอื่นเช่นเส้นทาง ตารางเวลา อัตราค่าโดยสาร ดูที่ http://accessnarita.jp/en

เรียกแท็กซี่เข้าเมืองได้มั้ย?

คำตอบคือ “ได้! แต่แพงนะ” เนื่องจากสนามบินนี้ไกลเมืองพอสมควร และค่าแท็กซี่ที่โตเกียวก็มหาโหด (เมื่อก่อนเริ่มต้นที่ 700 เยนหรือ 200 กว่าบาท เร็วนี้เห็นว่าทดลองลดราคาลงมาเหลือ 400 กว่าเยนเพื่อเตรียมรับโอลิมปิค 2020 แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเป็นราคาไหน) ดังนั้นขอเตือนว่าอย่าเผลอเรียกแท็กซี่เข้าเมืองเด็ดขาด นอกจากกรณีเร่งด่วนจริงๆ เพราะค่าแท็กซี่ไม่น่าจะหนีสองหมื่นเยน หรือคิดเป็นเงินไทยถึงหกเจ็ดพันบาทได้ง่ายๆ เก็บตังค์ไว้กินกับช้อปดีกว่ามั้ย :-)

ข้อมูล เรื่อง และภาพ: วศิน เพิ่มทรัพย์ DPlus Guide Team

เที่ยวฮ่องกง งานฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ 14-16 ก.ย. นี้

เที่ยวฮ่องกง งานฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ 14-16 ก.ย. นี้

เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง การไปท่องเที่ยวในประเทศที่มีชนเชื้อสายจีนและวัฒนธรรมจีน ก็จะมีเทศกาลหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลย นั่นก็คือ “เทศกาลไหว้พระจันทร์” ค่ะ โดยเฉพาะที่ฮ่องกง ในงานฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ฮ่องกง ผู้มาเยือนจะได้อิ่มอร่อยกับขนมไหว้พระจันทร์ พร้อมชมโชว์โคมไฟและขบวนเชิดมังกรไฟอันน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นอีกประสบการณ์ที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองกัน

งานเทศกาลโคมไฟ ที่ฮ่องกง จะจัดขึ้นในวันที่ 15 ก.ย. 2016 นี้
งานเทศกาลโคมไฟ ที่ฮ่องกง จะจัดขึ้นวันที่ 15 ก.ย. 2016 นี้ อยู่ระหว่างช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์

ทุกคืนวันเพ็ญเดือนแปดตามปฏิทินจันทรคติ ชาวจีนและผู้มีเชื้อสายจีนจะร่วมกันฉลอง “เทศกาลไหว้พระจันทร์” ซึ่งปีนี้ (พ.ศ. 2559) ตรงกับวันที่ 15 กันยายน

เทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง” หรือ “เทศกาลโคมไฟ” ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของชาวจีน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ชาวจีนจะใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เตรียมของไหว้พระจันทร์ และเพลิดเพลินดื่มด่ำไปกับความงดงามของค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงด้วยกัน

กรรมวิธีการทำขนมไหว้พระจันทร์ของฮ่องกง

เที่ยวฮ่องกงช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ชิมขนมไหว้พระจันทร์รสเลิศ

ซึ่งในงาน “เทศกาลไหว้พระจันทร์” ที่ฮ่องกง มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้

– เฉลิมฉลองเทศกาลด้วยขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อย

ขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อย

ในฐานะสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและการแสดงความขอบคุณต่อเทพเจ้าที่ช่วยดลบันดาลให้พืชผลไร่นาเจริญงอกงาม ขนมไหว้พระจันทร์ถือเป็นขนมที่ชาวจีนทุกคนพากันหาซื้อและมักจะขายหมดหลายสัปดาห์ล่วงหน้าในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์

ขนมไหว้พระจันทร์ของฮ่องกง มาในแพ็กเกจสวยงาม เหมาะเป็นของฝาก

ลองฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ตามขนบธรรมเนียมท้องถิ่นด้วยการซื้อขนมไหว้พระจันทร์แบบดั้งเดิมในกล่องดีไซน์สวยงามเพื่อเป็นของขวัญให้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ อาทิ ชุดของขวัญขนมไหว้พระจันทร์ Paris Moon แบบลิมิเต็ด อิดิชันของ Dalloyau หรือชุดขนมไหว้พระจันทร์ลิมิเต็ด กิฟท์เซ็ต 15 Night ของ Dreamix

ขนมไหว้พระจันทร์ในแพ็กเกจสวยงาม เหมาะจะซื้อกลับเป็นของฝาก
ขนมไหว้พระจันทร์ในแพ็กเกจสวยงาม เหมาะจะซื้อกลับเป็นของฝาก

คุณอาจไปตระเวนลองลิ้มชิมรสขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยและหลากหลายอย่างจุใจ เช่น ขนมไหว้พระจันทร์แบบมินิคัสตาร์ดไข่ไส้ทุเรียนจาก The Peninsula, ขนมไหว้พระจันทร์ทรีโอวิสกี้ช็อคโกแลตจากโรงแรม InterContinental Grand Stanford Hong Kong, หรือขนมไหว้พระจันทร์ Mini Rose Purée and Roselle จาก Mira Dining ก็ได้เช่นกัน

– เปิดประสบการณ์และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นไปกับประเพณีเชิดมังกรไฟไท่ ฮาง

ประเพณีเชิดมังกรไฟไท่ ฮาง ในเทศกาลไหว้พระจันทร์

อย่าลืมแวะไปชมประเพณีเชิดมังกรไฟที่ย่านไท่ ฮาง ที่สะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและเป็นหนึ่งในประเพณีสำคัญของเทศกาลไหว้พระจันทร์ของฮ่องกงมาช้านาน โดยการเชิดมังกรไฟไท่ ฮางเริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1880 ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านไท่ ฮางจัดขึ้นเพื่อขับไล่โรคร้ายที่ระบาดในหมู่บ้าน นับแต่นั้นมา ประเพณีเชิดมังกรไฟไท่ ฮาง จึงถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และกลายเป็นหนึ่งในอีเว้นท์วัฒนธรรมสุดตระการตาของฮ่องกงที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปสัมผัส เหล่านักเชิดมังกรไฟเกือบ 300 ชีวิตจะมาร่วมกันเชิดมังกรไฟที่มีความยาวถึง 67 เมตร ที่ส่วนหัวมีน้ำหนัก 48 กิโลกรัม ลำตัวมี 32 ท่อนและมีธูปหอมปักเป็นตัวมังกรกว่า 70,000 ดอก เป็นเวลานานสามคืน นำขบวนโดยกลุ่มคนที่ถือ “ไข่มุกยักษ์” สองแท่ง ซึ่งทำจากส้มโอที่ปักด้วยธูปหอมจำนวนมาก ตามด้วยคนตีกลองที่คอยส่งจังหวะคึกคักสนุกสนานสร้างบรรยากาศรื่นเริงแห่งการเฉลิมฉลองได้เป็นอย่างดี

[info-l””] ไท่ ฮาง, คอสเวย์ เบย์ (จุดชมการแสดงที่ดีที่สุดคือ ถนน หวุ่น ฉา)
[info-c”calendar “] วันที่ 14-16 กันยายน 2559 เวลา ประมาณ 20:15 – 22:30 น.
[info-w””] www.taihangfiredragon.hk

– ดื่มด่ำความงดงามของคืนพระจันทร์เต็มดวง พร้อมชมโชว์โคมไฟที่สวนสาธารณะวิคตอเรีย

เที่ยวฮ่องกง โชว์โคมไฟที่สวนสาธารณะวิคตอเรีย วันที่ 15 ก.ย. 2016 นี้
เที่ยวฮ่องกง โชว์โคมไฟที่สวนสาธารณะวิคตอเรีย วันที่ 15 ก.ย. 2016 นี้

หลากหลายนิทรรศการและงานคาร์นิวัลโคมไฟจะถูกจัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยงานจัดแสดงโคมไฟที่งดงามตระการตาที่สุดจะอยู่ที่สวนสาธารณะวิคตอเรีย ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง ภายในงาน นอกจากจะมีการแสดงโคมไฟขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามแล้ว ยังมีการสาธิตศิลปะกังฟู การแสดงดนตรีท้องถิ่น และโชว์ศิลปะต่างๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงอุปกรณ์การเชิดมังกรไฟไท่ ฮางด้วย

เที่ยวฮ่องกง โชว์โคมไฟที่สวนสาธารณะวิคตอเรีย วันที่ 15 ก.ย. 2016 นี้

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่ร่วมฉลองเทศกาลสำคัญครั้งนี้ อาทิ โชว์การแสดงวัฒนธรรมดั้งเดิม การทำนายดวงจากลายมือ บูธเกมส์ ทายปริศนาโคมไฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย

[info-l””] สวนสาธารณะวิคตอเรีย
[info-c”calendar “] วันที่ 15 กันยายน 2559 เวลา 20:00-23:00 น.

เรียบเรียงโดย: ทีมงาน DPlus Guide | ข้อมูลและรูปภาพจาก: ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวฮ่องกง www.discoverhongkong.com

แนะนำแหล่งช้อปแหลกในซัปโปโร MITSUI OUTLET PARK SAPPORO KITAHIROSHIMA

เมื่อเราไปเที่ยวญี่ปุ่น บินไปถึงฮอกไกโดทั้งที จะพลาดแพลนเที่ยวช้อปแหลกได้อยางไร เราขอแนะนำ ที่เที่ยวซัปโปโร MITSUI OUTLET PARK SAPPORO KITAHIROSHIMA เอาท์เล็ตมอลล์ที่มีร้านแบรนด์เนมและร้านค้ารวมอยู่ด้วยกันกว่า 170 ร้าน เช่น COACH, NIKE, Onitsuka Tiger, ร้านขายยา Matsumoto Kiyoshi เป็นต้น

เอาต์เลตแหล่งช้อปแหลกในซัปโปโร MITSUI OUTLET PARK SAPPORO KITAHIROSHIMA

MITSUI OUTLET PARK SAPPORO KITAHIROSHIMA แหล่งช้อปสินค้าแบรนด์เนมในซัปโปโร

นอกจากนี้ที่ MITSUI OUTLET PARK SAPPORO KITAHIROSHIMA ยังมีศูนย์อาหารที่มีขึ้นชื่อของฮอกไกโด เช่น ข้าวหน้าอาหารทะเล ราเมน ให้เลือกรับประทานได้ รวมถึงมีร้านขายของฝากและร้าน Tax Free มากกว่า 110 ร้าน นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Free Wi-Fi เครื่องรับแลกเงิน ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าขนาดใหญ่แบบหยอดเหรียญให้บริการด้วย งานนี้ทั้งช้อปทั้งชิล อำนวยความสะดวกกันเบอร์นี้ เดินช้อปปิ้งเพลินไม่มีเหนื่อยแน่นอนค่ะ

แหล่งช้อปปิ้งในซัปโปโร MITSUI OUTLET PARK SAPPORO KITAHIROSHIMA เดินทางสะดวก อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

แนะนำแหล่งช้อปแหลกในซัปโปโร MITSUI OUTLET PARK SAPPORO KITAHIROSHIMA
[info-t “”] – ร้านค้า 10.00 – 20.00 น.
– ร้านอาหาร 11.00 – 21.00 น. (เวลาทำการของแต่ละร้านอาจแตกต่างกัน)
– ศูนย์อาหาร 10.30 – 21.00 น. (Last Order 20.30 น.)
[info-d “”] – รถยนต์ จากสถานีรถไฟซัปโปโรประมาณ 30 นาที
– รถบัส ขึ้นรถบัส Chuo Bus (100) เส้นทาง Mitsui Outlet Park ที่ป้ายรถบัสหมายเลข 1 หน้าสถานีรถไฟซัปโปโร ฝั่งทางออกทิศใต้ของห้างโตคิว ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
[info-w “”] www.31op.com/sapporo/english
[info-g “”] 42.971052, 141.470614

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

ครั้งหนึ่ง ฮ่องกง มีนิทานปรัมปราว่าย่านสลัม「เมืองกำแพงเกาลูน(Kuronjou)」นั้นมีอยู่จริง  เกมส์เซนเตอร์ที่จำลองเมืองแห่งความฝันนั้น ตั้งอยู่ที่ เมืองคาวาซากิ จังหวักคานากาว่า 「 แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ

โดยสร้างออกมาได้เหมือนจริงมาก  ถือเป็นเกส์เซนเตอร์ที่มีคุณถาพสูง  ผู้ที่ชื่นชอบในการเล่นเกม และนักท่องเที่ยวมากมายต่างพากันมาเที่ยวชมที่แวร์เฮ้าส์คาวาซากิกัน ในปัจจุบันมีแฟนๆ จากทั่วประเทศญี่ปุ่นแล้วทั่วโลกแวะเวียนมาที่นี่ด้วยค่ะ   ในวันนี้จะมาแอบย่องเข้าไปสำรวจด้านในเกมส์เซนเตอร์ที่เป็นที่รู้จักของกลุ่มคนรักเกมส์กัน

ตึกเหล็กที่ตั้งตะหง่านสะดุดตากลางถนนใหญ่

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

จาก สถานี JR คาวาซากิ เดินประมาณ 5 นาที  จะพบกับตึกที่มีออร่าเขียนตัวอักษรต่างชาติดูน่ามีพิรุธ  ดูเป็นตึกที่ไม่ชวนพิศมัยให้น่าเข้าไปเลย ดังนั้เรามารวบรวมพลังแล้วเข้าไปชมข้างในกัน!

ไม่เคยเจอทางเข้าเกมเซนเตอร์แบบนี้มาก่อน!

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

ตรงนี้คือทางเข้าที่ใช้เข้าไปด้านในค่ะ   ถือเป็นการออกแบบที่ไม่น่าเชื่อว่า คือ เกมส์เซนเตอร์  ทำให้เกิดความคาดหวังสูงขึ้น  จริงๆแล้วในส่วนของตรงนี้ เป็นทางเข้าจากลานจอดรถค่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้นำรถไป ยังไงต้องแวะไปที่ทางเข้าในส่วนี้ให้ได้นะคะ หลังจาากนั้นประตูจะเปิดออกเองอัตโนมัติ……

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

ด้านในสุดจะปรากฏสระน้ำที่ดูเหมือนว่ามีนักฆ่าแอบซ่อนอยู่ใต้น้ำนั้น  การเติมแต่งสีสันให้กับเกมส์เซนเตอร์ถึงขนาดนี้ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าได้เป็นตัวละครเอกของเกมส์ไปแล้ว ตั้งแต่ก่อนเริ่มเล่นเกมส์ซะอีก

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

พอพ้นจากอุโมงค์ที่มีไลท์อัพสีแดง  ก็เหมือนหลุดเข้ามาในโลกแห่งความมืด  หากเป็นเกมส์แล้วละก็คงจะมีซอมบี้โผล่ออกมาด้วย

เหมือนกับนำเมืองกำแพงเกาลูนของจริงมาไว้ที่นี่ !? เป็นการจำลองที่ให้ความรู้สึกว่ามีคนอาศัยอยู่ที่นี่จริงๆ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

แอบมองจากชั้น3 ลงมาข้างล่าง  ตรงส่วนนั้นคือ เมืองกำแพงเกาลูนที่ตั้งตะหง่านให้เห็น  ป้ายและกระดาษที่แปะติดผนัง ระเบียงที่เป็นสนิม นั้นมีพืชขึ้นหนาแน่นรวมถึงหลังคาสังกะสีด้วย  ราวกับว่าเหมือนเป็นสถานที่ที่เคยมีคนมาอาศัยอยู่เมื่อ 10 ปีก่อน  ให้ความรู้สึกแปลกประหลาด จนไม่น่าเชื่อว่าที่นี่คือ เกมส์เซนเตอร์  ผู้ที่กำลังเล่นเกมส์นั้นกลับดูไม่สะทกสะท้านกับสถานที่นี้ ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดไปอีกแบบค่ะ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

จากการสัมภาษณ์พนักงาน ได้รับคำอธิบายมาว่า 「คนที่มีถิ่นกำเนิดที่เมืองกำแพงเกาลูนนั้น เคยมาเยือนที่นี่ด้วยตอนที่มาถึงนั้นถึงขนาดร้องไห้เลยค่ะ 」

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

ในส่วนที่มีสนิมเกาะนั้น ไม่ได้เป็นสนิทจริงๆ ทั้งหมดนั้นเป็นเทคนิคที่ถูกทำขึ้นค่ะ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

แผ่นป้ายนั้นเขียนด้วยมือทั้งหมด การตกแต่งภายใน ในส่วนนี้ ให้บริษัทตกแต่งภายใน『โฮชิโนะกุมิ』ที่มีความเชี่ยวชาญในศิลปะขั้นสูงของญี่ปุ่น เป็นผู้ดูแล  เพื่อที่จะสร้างให้เหมือนจริงที่สุด ถึงขนาดเดินทางไปถึงฮ่องกงเลย เพื่อหาอุปกรณ์มาตกแต่งบ้าง  แถมยังให้คนที่รู้จักที่อยู่ในสถานที่จริงส่งไปรษณีย์ระหว่างประเทศมาให้ด้วย บางครั้งถึงขนาดให้ส่งขยะจากสถานที่จริงมาให้เลยค่ะ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

ลูกค้าที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับเกมส์ที่แวดล้อมไปด้วยการตกแต่งภายในที่ใช้เทคนิคยอดเยี่ยม  หากได้เล่นเกมส์ท่ามกลางการตกแต่งสถานที่แบบนี้แล้วละก็ยิ่งทำให้รู้สึกคึกคักขึ้นอีก

ที่อยากจะนำเสนออีกอย่าง คือ ห้องน้ำชายที่ถูกคิดค้นมาพิเศษ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

หลังจากที่ชมรอบๆภายในร้านไปแล้ว อย่าลืมแวะมาดูกันให้ได้ !ถูกแนะนำมาจากพนักงานในร้านเกี่ยวกับห้องน้ำชาย「ขนาดห้องน้ำยังทำถึงขนาดนี้!」ตกใจมาก

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

แม้แต่ในห้องน้ำ ยังไม่สามารถลืมได้ว่าอยู่ในเมืองกำแพงเกาลูน  ให้ความรู้สึกถึงการคิดค้นอย่างทุ่มเท แต่เพียงแค่การตกแต่งด้วยเทคนิคขั้นสูงเท่านั้น ห้องน้ำก็สะอาดมากๆ สบายใจได้เลยค่ะ

ใส่ใจแม้แต่ในรายละเอียดปลีกย่อยที่ถูกดัดแปลงมากมาย

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

แม้แต่จุดที่คนไม่เดินผ่านก็ไม่ตัดออกค่ะ ทางด้านนี้คือ ตู้ไปรษณีย์  ที่ คนท้องถิ่นชาวฮ่องกง จัดส่งมาให้ค่ะ  หากหมุนลูกบิดประตูแล้วจะมีเสียงดังออกมา ต้องลองมาชมกันให้ได้ค่ะ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

ตู้ขายน้ำอัตโนมัติ ก็จัดแต่งให้「เปื้อน」ด้วย  ให้บรรยากาศของกิวริวโจวแบบเข้าเนื้อกันไปเลย

สถานบันเทิงของผู้ใหญ่,หาเล่นเกมส์เก่าๆที่ชวนให้นึกถึงอดีต

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

ได้พูดคุยกับคุณอิโต ที่ทำงานอยู่ในส่วนนี้  ได้บอกเล่าเกี่ยวกับ แวร์เฮ้าส์คาวาซากิทั้งหมดว่า มีเป้าหมายที่จะ 「ทำให้เป็นสถานที่สำหรับผู้ใหญ่ที่สามารถใช้เล่นและเดทได้」ดังนั้นอายุต่ำกว่า 18ปี บริบูรณ์ ไม่สามารถเข้าใช้บริการได้

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

ขอนำเสนอเกมส์ย้อนยุคที่สนุกเพลิดเพลินไปพร้อมกับบรรยากาศของเมืองกำแพงเกาลูน  ถือเป็นของมีค่ามากเพราะทั่วประเทศมีเหลือแค่เครื่องเดียวเท่านั้น   สถานที่เล่นเกมที่มีสภาพแวดล้อมในลักษณะนี้แม้แต่ในญี่ปุ่นเอง ก็หาที่ไหนไม่ได้ค่ะ  สำหรับคนรักเกมส์ต้องลองไปสักครั้งให้ได้ค่ะ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

ในช่วงนี้ถือเป็นที่รู้จักมากขึ้น มีการมาถ่ายภาพลงนิตยสารหรือรูปกล่องใส่ CD   แม้กระทั่งคนที่มาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกสำหรับงานแต่งงานก็มีค่ะ

เน็ตตาเฟ่ ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ผู้ใหญ่สามารถใช้เวลาสบายๆได้ !

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

นอกจากสถานที่เล่นเกมแล้ว ยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่ บริษัท「โฮชิโนะกุมิ」ก็ได้จัดทำขึ้น ลองวะไปชมกันให้ได้ค่ะ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

คุณลุงที่ยืนหลังตรงต้อนรับอยู่ตรงนี้ คือ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ค่ะ

พรมสีแดงแผ่กว้าง ให้ความรู้สึกหรูหรา พื้นที่หว้างขวางโอ่อ่า  ผู้หญิงที่มาตัวคนเดียวก็เยอะเหมือนกันค่ะ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

มีเก้าอี้นวดจัดเตรียมไว้ให้ด้วย ไว้ใช้สำหรับรีแลคซ์กันค่ะ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」

จุดมุ่งหมายหลักของที่นี่ คือ  「จะทำอย่างไรให้ลูกค้าตกใจกันได้」ถือ คำพูดของคุณอิโตค่ะ   แวร์เฮ้าส์คาวาซากินั้น ไม่ว่าจะมาเมื่อไหร่ก็ให้ความรู้สึกปลุกเร้าเสมอๆค่ะ มาสนุกและจดจ่อกับการเที่ยวเล่นที่นี่กันค่ะ

การกลับมาอีกครั้งกับเมืองกำแพงเกาลูน!?สถานที่ของเหล่าโอตาคุเกมส์「แวร์เฮ้าส์คาวาซากิ」
[info-c] 3-7 Nisshinchō, Kawasaki-ku, Kawasaki-shi, Kanagawa-ken
เวลาทำการ:จันทร์~ศุกร์ 9:00~23:45 / เสาร์,อาทิตย์,วันหยุดราชการ 7:00~23:45
※4F(ปาเป้า)、5F(เน็ตคาเฟ่)เปิด 24 ชั่วโมง
[info-l] ลงที่ สถานี JR คาวาซากิ ประตูทางออกทิศตะวันออก 、เดินไปตาม เคคิวคาวาซากิ ไลน์ โยโกฮาม่า 3นาที
[info-w] www.warehousenet.jp

ที่มาของบทความ: MATCHA
Matcha เว็บไซต์แม็กกาซีน การท่องเที่ยวญี่ปุ่น

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

หากเดินอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์สดใส จะได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊ง ของกระดิ่งลมจากที่ไหนสักแห่ง ที่ทำให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นมา  กระดิ่งลมนั้นถือเป็นสิ่งที่ต้องมีในหน้าร้อนเลยหล่ะค่ะ  วัดคาวาซากิไดชิ ที่จังหวัดคานากาว่า ทุกๆหน้าร้อนจะมีการจัดงานเทศกาลกระดิ่งลมขึ้นค่ะ

กระดิ่งลม คือ ?

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

กระดิ่งลม คือระฆังที่ทำมาจาก แก้ว,เครื่องปั้นดินเผา,โลหะ เป็นต้น  ในฤดูร้อนจะนำมาแขวนที่ด้านล่างชายคา  สมัยมุโรมาจินั้นถือเป็นเครื่องเรือนของบ้านอย่างหนึ่ง จนกลายเป็นที่นิยมแพร่หลาย  ในยุคเอโดะ ร้านขายกลองและขายแมลง และร้านขายกระดิ่งลมเป็นสัญลักษณ์กลิ่นอายของหน้าร้อน

ฟูริ่ง โนะ โอโตะ มะจิคาเนะรุ อะซึซาคานะ(หนังสือรวบรวมบทกวี จูโกไฮลงไฮ)

เนื้อหาของความหมายเพลงนี้คือ   อากาศร้อนในหน้าร้อนนั้นหากได้ยินเสียงของกระดิ่งลมแล้วจะรู้สึกเย็นสบาย ดังนั้นจึงรอที่จะได้ยินเสียงกระดิ่งลม

ซึซึชิสะ โนะ มิม คาระ ไฮรุ ฟูริ่งคานะ(หนังสือรวบรวมบทกวี เคโฮไฮ)

“ในอากาศร้อน จะได้รับความเย็นจากการได้ยินเสียงกระดิ่งลม”

คนญี่ปุ่นนั้นตั้งแต่สมัยโบราณมา หากได้ยินเสียงกระดิ่งลมแล้วจะสามารถฟันฝ่าหน้าร้อนที่แสนจะร้อนอบอ้าวนี้ไปได้ ดังนั้นกระดิ่งลมหลากหลายแบบจะถูกแขวนไว้ที่หน้าบ้าน และเพลิดเพลินกับเสียงเย็นๆของกระดิ่งลมค่ะ

ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิ

ทุกปีช่วงกลางเดือน 7 ที่วัดคาวาซากิไดชิจะมีการจัดงานกระดิ่งลมขึ้นเป็นเวลา 5 วันค่ะ  ทุกๆปีจะมีการรวบรวมกระดิ่งลมจากทั่วประเทศทั้งหมด 47 จังหวัดของญีุ่่ป่น ประมาณราวๆ 900ชนิด หรือประมาณ 30,000 ชิ้นไว้ที่นี่

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

ถนนเส้นที่ใช้เดินไปนมัสการวัดนั้นครึกครักมาก มีผู้คนมากมายจากทั่วประเทศแวะมาที่นี่เพื่อเที่ยวชมกระดิ่งลมค่ะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

พอเข้ามาถึงบริเวณในวัด  จะเจอกับฝูงคนเยอะๆมาก รวมไปถึงเสียงก้องกังวาลของกระดิ่งลมด้วยค่ะ  ได้ยินหลากหลายเสียงเลยหล่ะค่ะ ทั้ง กรุ๊งกริ๊ง,หริ่งหริ่ง,ก๊องก๊อง แล้วแต่ชนิดของกระดิ่งลมที่ดังประสานเสียงกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

กระดิ่งลมดารุมะปัดเป่าโชคร้ายนั้นก็ฮิตกันมากค่ะ เพราะวัดคาวาซากิไดชินั้นมีชื่อเสียงเรื่องตุ๊กตาดารุมะ ผู้คนที่มาหาซื้อกันก็เยอะมากๆเลย

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

หาซื้อกระดิ่งลมจากทั่วประเทศของญี่ปุ่นกัน

หลังจากนี้จะมาแนะนำกระดิ่งลมสวยๆ มากมายจากทั่วทุกหนทุกแห่งของญี่ปุ่นกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

ตามแต่ละสถานที่จะแตกต่างกันไปทั้งรูปทรงและวัตถุดิบที่ใช้ค่ะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

กระดิ่งคิชู ทำจากขวดแก้ววิสกี้หรือไวน์  ไม่ว่าจะมองดูหรือได้ยินเสียงก็ทำให้รู้สึกเย็นสบายค่ะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

เดินเล่นแล้วฟังเสียงกระดิ่งลมไปพลางๆ เผลอแปบเดียวเวลาผ่านไปเร็วมากเลยค่ะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

ลองหาที่ถูกใจตัวเองสักหนึ่งชิ้นกัน

หากได้รู้จักกระดิ่งลมมากมายขนาดนี้แล้วละก็  คงอยากจะซื้อเป็นของฝากกลับไปกันเลยหล่ะค่ะ  ดังนั้นมาหากระดิ่งลมที่ถูกใจตัวเองกันดีกว่า

มองหาจากรูปทรงภายนอก OK

อย่างแรกเลย คือ การเลือกกระดิ่งลมนั้น ดูจากรูปทรงภายนอก  ส่วนเรื่องเสียงก็สำคัญไม่แพ้กันแต่ ยังไงซะก็ขอเป็นรูปทรงที่ได้คิดค้นออกมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงสัตว์,ผลไม้ กระดิ่งลมน่ารักๆนั้นมีมากมายหลากหลายเลยหล่ะคะ่

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

กระดิ่งลมของอิวาเตะนั้น จะเป็นรูปทรงแอปเปิ้ลซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเมืองนี้ค่ะ

ส่วนกระดิ่งลมที่ทำเป็นรูปสัตว์น่ารักๆ เช่น หมีและแมวนั้นก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

ได้เจอกับผลงานชิ้นหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาเฉพาะ  「รู้สึกชื่นชอบแบบไม่มีเหตุผล!」จะใช้วิธีเลือกแบบก็นี้ดีไม่น้อยเลยค่ะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

ทางด้านนี้จะออกสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้แรงบันดาลใจจาก ภูเขาฟูจิหรือ ตัวรองยาจุดกันยุงที่เป็นหน้าตาหมู เป็นต้น

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

เลือกจากความไพเราะของเสียง

หากจะเลือก「จากความไพเราะของเสียง」ให้มุ่งไปที่วัตถุดิบที่ใช้ผลิตขึ้นมาค่ะ ทั้งเสียงสูงต่ำและความกังวาลจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ เช่น  แก้ว、หิน、ไม้ไผ่……  ดังนั้นลองฟังแล้วเลือกเสียงที่ถูกใจตัวเราเองกันดูนะคะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

กระดิ่งลมไม้ไผ่หรือถ่านนั้น   ให้เสียงที่ดัง ก๊องก๊อง ฟังแล้วสบายหูค่ะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

กระดิ่งลมหินนั้นดูแปลกตามาก  ให้เสียงครึกครื้นกังวาลค่ะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

กระดิ่งลมนัมบุ นั้นขอแนะนำสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับเสียงโดยเฉพาะ  เสียง “รี่ง……”ที่ได้ยินแล้วทำให้นึกถึงความหลังซึ่งดังมาจากที่ไหนสักแห่ง   พอได้ยินเสียงนี้แล้ว จะให้ความรู้สึกหวนนึกถึงความหลังหน้าร้อนในสมัยก่อนค่ะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

ลองนำไปตกแต่งกัน กับเสียงของหน้าร้อน

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน

กระดิ่งลมที่เป็นเสียงสื่อถึงหน้าร้อนญี่ปุ่น ลองไปเที่ยวชมงานเมืองกระดิ่งลมแล้วหาแบบที่ถูกใจตัวเองให้ได้สักชิ้นหนึ่งกันค่ะ  กรุ๊งกริ๊ง เสียงบรรยากาศของหน้าร้อน ลองนำไปติดที่บ้านกันดูให้ได้เลยนะคะ

หนังสืออ้างอิง『【เอบิกิ】สารานุกรสำหรับผู้อยู่อาศัยม』คาวาเดะโชโบชินฉะ

【ฤดูร้อน】ไปตามหาเสียงของหน้าร้อน ที่ตลาดกระดิ่งลม วัดคาวาซากิไดชิกัน
[info-c] 17/4-21/7(ปี2014) AM10:00~PM18:00(เสาร์อาทิตย์ งานมีถึง PM20:00)
[info-l] 4-48 Daishimachi, Kawasaki-ku, Kawasaki-shi, Kanagawa-ken
[info-p] กระดิ่งลม 1 ชิ้น 1000เยนบวกลบ 〜
[info-w] http://oigawa-railway.co.jp/archives/event/thomas_fair_2016
[info-g] 35.534242,139.729143

[googlemaps https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m18!1m12!1m3!1d3246.787592553752!2d139.72695431565603!3d35.53424634562558!2m3!1f0!2f0!3f0!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x0%3A0x0!2zMzXCsDMyJzAzLjMiTiAxMznCsDQzJzQ0LjkiRQ!5e0!3m2!1sth!2sus!4v1471841440747&w=400&h=300]

ที่มาของบทความ: MATCHA
Matcha เว็บไซต์แม็กกาซีน การท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เที่ยวซัปโปโร ร้านขนม ISHIYA ส่งตรงจากโรงงานช็อกโกแลต Shiroi Koibito Park

เที่ยวซัปโปโร ร้านขนม ISHIYA ส่งตรงจากโรงงานช็อกโกแลต Shiroi Koibito Park

วันนี้ DPlus Guide จะพามารู้จักร้านขนมชื่อดังในเมือง Sapporo ค่ะ นั่นก็คือ  ร้าน ISHIYA ซึ่งขนมจากร้านนี้ผลิตจาก โรงงานช็อกโกแลต Shiroi Koibito Park ซึ่งเป็นหนึ่งในที่เที่ยวซัปโปโรที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั่นเอง

ขนม Shiroi Koibito ของฝากชื่อดังจากฮอกไกโด

ร้าน ISHIYA เป็นขนมหวานชื่อดัง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของฮอกไกโดเลยทีเดียว ภายในร้านมีขนมหวานหลากหลายรูปแบบให้เลือกลิ้มลอง โดยเฉพาะ “Shiroi Koibito” ขนมขึ้นชื่อของที่นี่ เป็นคุกกี้กรอบบาง 2 ชิ้นประกอบเข้าด้วยกัน ตรงกลางเป็นไส้ไวท์ช็อกโกแลต หรือมิลค์ช็อกโกแลต ซึ่งเป็นหนึ่งในของฝากที่นิยมซื้อกันมาก

Shiroi Koibito ขนมของฝากยอดนิยมจากฮอกไกโด
ซูมภาพความอร่อยของ Shiroi Koibito ของฝากยอดนิยมจากฮอกไกโด

นอกจากนี้ยังมี “Mifuyu” ขนมหวานรูปแบบใหม่ที่อยากแนะนำให้ลองชิม

Mifuyu พายสอดไส้เคลือบช็อกโกแลต ขนมของฝากรูปแบบใหม่ ที่คิดค้นขึ้นเพื่อขับเน้นรสของช็อกโกแลตMifuyu ทำจากสูตรที่คิดค้นขึ้นเพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของช็อกโกแลต (อย่าลืมว่าจุดเด่นของ ร้าน ISHIYA อยู่ที่เป็นร้านของโรงงานช็อกโกแลตโดยตรงเลย!) ซึ่งขนมที่ชื่อ Mifuyu นี้จะผสมผสานระหว่างความกรอบเบาของแป้งพายแทรกด้วยไส้หอมๆ ด้านนอกเคลือบด้วยช็อกโกแลต ซึ่งสัมผัสกรุบกรอบของแป้งพายนั้นจะเข้ากับช็อกโกแลตได้เป็นอย่างดี

เที่ยวซัปโปโร Mifuyu ขนมของฝากรูปแบบใหม่จากฮอกไกโด

Mifuyu มี 4 รสชาติ ได้แก่ แบล็คช็อกโกแลต-บลูเบอรี่, มิลค์ช็อกโกแลต-คาราเมล, ไวท์ช็อกโกแลต-เกาลัดหวาน และชาเชียวมัทฉะ

ร้าน ISHIYA มีสาขาอยู่ทั่วฮอกไกโด เช่น Sapporo, Otaru, Hakodate, Asahikawa, Obihiro, Kushiro, สนามบิน New Chitose เป็นต้น

นอกจากนี้ ขนมของร้าน ISHIYA ยังมีจำหน่ายที่ร้านขายของฝากทั่วไปอีกด้วย เหมาะจะซื้อกลับไปเป็นของฝากจากฮอกไกโดจริงๆ ค่ะ!

เที่ยวซัปโปโร ร้านขนม ISHIYA ส่งตรงจากโรงงานช็อกโกแลต Shiroi Koibito Park
[info-t “”] 9:00 – 19:00 น. (เวลาทำการของร้านขนม)
[info-d “”] รถไฟใต้ดินสาย Tozai สถานี Miyanosawa ทางออก 2 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนซอยย่อมมาทะลุถนนใหญ่อีกฝั่ง (350 เมตร) เลี้ยวขวาตรงไปประมาณ 200 เมตร โรงงานจะอยู่ฝั่ตรงข้าม
[info-w] www.ishiya.co.jp
[info-g “”] 43.088656, 141.271536 (สาขา Shiroi Koibito Park)

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

เพื่อนๆรู้มั้ยคะว่าในญี่ปุ่นมีงานอีเว้นท์ที่สามารถพบกับ โทมัสและผองเพื่อน ซึ่งเป็นการ์ตูนยอดนิยมในหมู่เด็กๆด้วยนะเออ…

Oigawa Railway (บริษัทรถไฟโออิกาวะ) ใน จ.ชิสึโอกะ ได้จัดงาน「โทมัสแฟร์」ขึ้นตั้งแต่ปี 2014 โดยเริ่มตั้งแต่ฤดูร้อนไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง เราสามารถขึ้นรถไฟโทมัสและเจมส์ได้จริงๆ พบปะกับผองเพื่อนของโทมัส และเพลิดเพลินกับการจัดแสดงและกิจกรรมต่างๆอีกมากมาย

ภายในงานไม่ได้มีเพียงแค่โทมัสและเจมส์เท่านั้น แต่ยังมีผองเพื่อนอย่างฮิโระและเพอร์ซี่มาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ ในปี 2016 ได้มีการเปิดตัวตัวละครใหม่อย่าง Bertie the Bus (รถบัสเบอร์ตี้) และ Troublesome Trucks (รถบรรทุกจอมป่วน) โดยโทมัสแฟร์ปี 2016 นี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน – วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม! ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำบรรยากาศของงานโทมัสแฟร์แสนคึกคักเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านๆมากันค่ะ ^^

เหล่าโทมัสมารอต้อนรับที่「Shin-Kanaya Station」

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

และจุดเริ่มต้นของการเดินทางก็คือ 「Shin-Kanaya Station」จ.ชิสึโอกะ นั่นเอง เมื่อมาถึงที่สถานีรถไฟก็จะเห็น「รถบัสเบอร์ตี้」มารอต้อนรับเราอยู่แล้ว

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

จากโรงรถไฟด้านหลัง เราจะเห็นรถไฟโทมัสและเจมส์วิ่งเทียบกันมาแบบติดๆ!

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

ส่วนคนขับรถและผู้ช่วยของรถบัสเบอร์ตี้ก็แต่งชุดแบบพิเศษสำหรับงานแฟร์โดยเฉพาะเลยทีเดียว

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

เย้〜 รถไฟโทมัสเทียบสถานี「Shin-Kanaya Station」แล้วล่ะค่ะ แม้แต่ช่างเครื่องก็แต่งตัวราวกับอยู่ในโลกแห่งโทมัสเลยนะเนี่ย…

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

แม้แต่ Sir Topham Hatt (เซอร์ ท็อปแฮม แฮท) ผู้บริหารบริษัทรถไฟก็เดินทางมาจากเกาะโซดอร์ (※1) เพื่อมาต้อนรับโทมัสกับเค้าด้วย

※1:”เกาะโซดอร์” ชื่อของเกาะในจินตนาการของเหล่าโทมัสที่ปรากฎในการ์ตูนเรื่อง “โทมัสและผองเพื่อน”

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

หลังจากขึ้นรถไฟโทมัสเรียบร้อยแล้วก็มุ่งหน้าไปยังสถานี 「Senzu Station」กันเล〜ย จากภาพเป็นชาพิเศษที่พิมพ์ลายโทมัสน่ารักน่าดื่มสุดๆ เนื่องจากเราสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าที่「Shin-Kanaya Station」ถ้าซื้อกลับไปเป็นความทรงจำระหว่างเที่ยวก็คงเก๋ไก๋ไม่เบา

นั่งรถไฟโทมัสมุ่งหน้าไปยัง「Senzu Station」

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

รถไฟโทมัสและเจมส์วิ่งตัดผ่านไร่ชาญี่ปุ่นโดยพ่นควันปู๊นๆ ไปตลอดทาง และสิ่งที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในการ์ตูนก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว นั่นก็คือ “ทัศนียภาพอันงดงามชวนฝัน” นั่นเองค่ะ

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

เราจะได้ยินโทมัสและเจมส์พูดคุยกับผู้โดยสารผ่านลำโพงภายในขบวนรถไฟด้วย! การตกแต่งภายในสวยงามและพิถีพิถัน บนเพดานติดธงโทมัสห้อยลงมา ส่วนเบาะนั่งก็พิมพ์ลายโทมัสและกอร์ดอนสวยงาม รับรองว่าเด็กๆ เห็นแล้วจะต้องชอบกันอย่างแน่นอน

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

นอกจากนี้ก็ยังมี “ข้าวกล่องเบนโตะ” ซึ่งเป็นสินค้าพิเศษที่หาซื้อได้จากพลาซ่าโลโก้ของสถานี「Shin-Kanaya Station」ภายในช่วงที่จัดงาน「โทมัสแฟร์」เท่านั้น

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

สาหร่ายรูปหน้าโทมัสน่ารักน่ารับประทานสุดๆ

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

ตั้งแต่สถานี「Shin-Kanaya Station」ไปจนถึงสถานี「Senzu Station」เรียงรายไปด้วยทัศยนีภาพอันสวยงามสบายตาตลอดทาง ท้องฟ้าก็สวยสดใส ทำให้ช่วยผ่อนคลายจิตใจจากความวุ่นวายในเมืองได้เป็นอย่างดี

เหล่าเพอร์ซี่และฮิโระกำลังรอต้อนรับทุกคนอยู่ที่「Senzu Station」

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงสถานี「Senzu Station」แล้วล่ะค่ะ ที่สถานีนี้มีฮิโระและเพอร์ซี่ ผองเพื่อนของโทมัส, รถไฟสินค้ารัสตี้และ「รถบรรทุกจอมป่วน」กำลังรอคอยการมาถึงของเหล่าโทมัสอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

และนี่ก็คือ “เจมส์” ผู้มีขบวนสีแดงแสบสันสวยงาม เนื่องจากเจมส์มีนิสัยรักความสวยงาม ตัวรถไฟจึงได้รับการขัดให้เงาวับสวยงาม

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

ส่วนนี่ก็คือ “เพอร์ซี่” รถจักรสีเขียวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของโทมัส เพอร์ซี่มีนิสัยชอบแกล้งเพื่อน

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

ส่วน “ฮิโระ” เป็นโมเดลของ D51 รถไฟแห่งประเทศญี่ปุ่น นับเป็นรุ่นพี่คนโตของคนอื่นๆ ในโลกแห่งโทมัสเลยทีเดียว

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

และสุดท้ายก็คือ “รถไฟสินค้ารัสตี้” ที่งาน「โทมัสแฟร์」ปี 2016 นี้ รัสตี้มีหน้าที่ลากรถไฟสินค้าเพื่อพาชมภายใน「Senzu Station」

แท่นหมุนรถไฟอัตโนมือจากประเทศอังกฤษ

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

และนี่ก็คือบรรยากาศการเปลี่ยนทิศทางหัวรถไฟเจมส์ด้วยแท่นหมุนของสถานี「Senzu Station」แท่นหมุนรถไฟนี้มาจากประเทศอังกฤษ โดยเป็นแท่นหมุนรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาแท่นหมุนรถไฟจากอังกฤษที่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่น ในปัจจุบันก็ยังคงขับเคลื่อนด้วยแรงงานคนอยู่เหมือนเดิม!

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

สถานี「Senzu Station」เรียงรายไปด้วยฮิโระ, โทมัส และเจมส์ บรรยากาศดูราวกับว่าพวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่จริงๆเลยนะคะเนี่ย…

ชมโทมัสจากใต้สะพานกันดีกว่า

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!

และที่จุดถ่ายรูปสุดท้ายนี้ เราสามารถถ่ายรูปบรรยากาศที่รถไฟโทมัสวิ่งบนรถสะพานเหล็กอย่างขึงขังได้ รถไฟโทมัสแล่นฝ่าลมดูสบายใจเชียวล่ะค่ะ!

ในครั้งนี้เรามีโอกาสได้ขึ้นรถไฟโทมัสกันจริงๆ แต่ก็ยังอยากลองขึ้นรถบัสเบอร์ตี้ดูเหมือนกัน นอกจากนี้ ระหว่างการจัดงานแฟร์ ถ้าโชคดีก็อาจได้พบกับโทมัสและเบอร์ตี้วิ่งคู่กันด้วย! เพื่อนๆลองมาชมโลกแห่งโทมัสเพื่อเก็บเป็นความทรงจำดีๆในหน้าร้อนกันดูมั้ยเอ่ย? ^^

※ สามารถเช็คที่นั่งว่างผ่าน โฮมเพจของบริษัทรถไฟโออิกาวะ ได้

พบกับโทมัสและผองเพื่อนที่โทมัสแฟร์ในชิสึโอกะ!
[info-c] โทมัสแฟร์ 10:00~16:00 น. 11 มิถุนายน (วันเสาร์)〜10 ตุลาคม (วันจันทร์)
[info-l] Senzu, Kawanehon-cho, Haibara-gun, Shizuoka Prefecture
[info-p] ค่าเข้าชมโทมัสแฟร์ สูงกว่าเด็กประถมขึ้นไป 500 เยน
[info-w] http://oigawa-railway.co.jp/archives/event/thomas_fair_2016
[info-g] 35.126749,138.099234

[googlemaps https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m18!1m12!1m3!1d13053.016930592561!2d138.09051459868127!3d35.12532868559215!2m3!1f0!2f0!3f0!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x0%3A0x0!2zMzXCsDA3JzM2LjMiTiAxMzjCsDA1JzU3LjIiRQ!5e0!3m2!1sth!2sus!4v1471420610069&w=400&h=300]

ที่มาของบทความ: MATCHA
Matcha เว็บไซต์แม็กกาซีน การท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เที่ยวฮอกไกโด Beef Impact สเต๊กวากิวย่างด้วยถ่าน ที่สาขาทะนุกิโคจิ ซัปโปโร

เที่ยวฮอกไกโด Beef Impact สเต๊กวากิวย่างด้วยถ่าน ที่สาขาทะนุกิโคจิ ซัปโปโร
เที่ยวฮอกไกโดทั้งทีก็ต้องได้ลิ้มลองรสเนื้อวัวฮอกไกโด! สเต๊กวากิวย่างด้วยถ่านของร้าน "Beef Impact" เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำสุดๆ

วันนี้ทีมงาน DPlus Guide ขอแนะนำร้านสเต๊กที่ได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซัปโปโร โดยเฉพาะใน ย่านถนนคนเดินทะนุกิโคจิ (Tanuki Koji) นั่นก็คือ ร้าน Beef Impact

มาลองชิมสเต๊กวากิวย่างด้วยถ่าน ที่ร้าน Beef Impact ที่สาขาทะนุกิโคจิ (Tanuki Koji) ซัปโปโร ฮอกไกโด
มาลองชิมสเต๊กวากิวย่างด้วยถ่าน ที่ร้าน Beef Impact ที่สาขาทะนุกิโคจิ (Tanuki Koji) ซัปโปโร ฮอกไกโด

ทางร้าน Beef Impact จะเลือกสรรเนื้อวัว Hokkaido Wagyu ที่ดีที่สุดในฮอกไกโดเพื่อให้ได้เนื้อสเต๊กที่นุ่ม อร่อย และมีความชุ่มฉ่ำาา!

ลูกค้าสามารถเลือกสเต๊กได้ตามน้ำหนักที่ต้องการ ซึ่งทางร้านจะหั่นและย่างให้ชมกันตรงหน้าเลย (สามารถดูกรรมวิธีการย่างเนื้อสเต๊กชิ้นหนาอย่างพิถีพิถันจากภายนอกร้านได้อีกด้วย)

หน้าร้าน Beef Impact มีโชว์กรรมวิธีการย่างสเต๊กเนื้อฮอกไกโดวากิวด้วยเตาถ่านให้ดูด้วยค่ะ
หน้าร้าน Beef Impact มีโชว์กรรมวิธีการย่างสเต๊กเนื้อฮอกไกโดวากิวด้วยเตาถ่านให้ดูด้วยค่ะ

เมนูแนะนำ ลองสั่งเมนู “Hokkaido Kuroge Wagyu Steak” น้ำหนัก 300 กรัมขึ้นไป เพื่อสัมผัสรสชาติของสเต๊กที่หนานุ่มได้แบบเต็มปากเต็มคำ มาเที่ยวฮอกไกโดทั้งที ห้ามพลาดเลยนะคะ!

เที่ยวฮอกไกโด Beef Impact สเต๊กวากิวย่างด้วยถ่าน ที่สาขาทะนุกิโคจิ ซัปโปโร
เที่ยวฮอกไกโดทั้งทีก็ต้องได้ลิ้มลองรสเนื้อวัวฮอกไกโด! สเต๊กวากิวย่างด้วยถ่านของร้าน “Beef Impact” เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำสุดๆ

ร้าน Beef Impact ยังมีอีกสาขาตั้งอยู่ที่ ชั้น 7 ตึก le trois ซัปโปโร

แนะนำ ร้านอาหาร Beef Impact สเต๊กย่างด้วยถ่าน ที่สาขาทะนุกิโคจิ
[info-t “”] 11:30 – 22:30 น.
[info-d “”] เดินจากสถานีซูซูกิโนะ 3 นาที / เดินจากสถานีโอโดริ 1 นาที (อยู่ในย่านช้อปปิ้งทะนุกิโคจิบล็อก 4 หน้าร้านมีหุ่นวัวและป้ายรูปสเต๊กขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน)
[info-w “”] http://tabelog.com/hokkaido/A0101/A010102/1047204/dtlmenu
[info-g “] 43.057091, 141.352123

【สถานีโตเกียว】โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

เที่ยวญี่ปุ่น ร้าน Pokémon Store ร้านขายสินค้าโปเกมอน ที่ Tokyo Character Street

ญี่ปุ่นเป็นแหล่งรวมตัวการ์ตูนยอดฮิตมากมาย เช่น โปเกม่อน, ฮัลโหลคิตตี้ และ ตัวละครของสตูดิโอจิบลิ เป็นต้น โดยสินค้าของตัวการ์ตูนเหล่านั้นนับเป็นของฝากจากญี่ปุ่นชั้นเยี่ยมเลยทีเดียว แต่ร้านค้าทางการของตัวการ์ตูนแต่ละเรื่องตั้งอยู่กระจายกันทั่วญี่ปุ่น ทำให้การตระเวนช้อปทุกร้านเป็นเรื่องลำบากมาก

「อยากช้อปปิ้งสินค้าตัวการ์ตูนทุกเรื่องได้ภายในแห่งเดียว!」

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมสินค้าตัวการ์ตูนยอดฮิตสำหรับใครที่อยากช้อปปิ้งสินค้าตัวการ์ตูนทุกเรื่องภายในแห่งเดียวกันค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง:
เต็มไปด้วยโปเกมอนและยังเต็มไปด้วยความสนุก! โปเกมอนเซ็นเตอร์เมกะโตเกียวปรากฏขึ้นแล้วที่อิเคะบุคุโระ!
ย้อนวัยเข้าไปในโลกจินตนาการ!「พิพิธภัณฑ์จิบลิ」ที่มิตากะ

โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีทคืออะไรกันนะ?

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท เป็นโซนเฉพาะสำหรับตัวการ์ตูน ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า Tokyo Station Ichibangai โดยเราสามารถเดินทางจากสถานีโตเกียว ประตูฝั่งยาเอสุมาได้เพียง 2 นาทีเท่านั้น สะดวกสุดๆ ที่นี่เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากกว่า 20 ร้าน เช่น ร้านจำหน่ายสินค้าตัวการ์ตูนชื่อดังและร้านค้าทางการของสถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่น เป็นต้น

คัดสรรร้านค้าแนะนำสำหรับทุกคน!!

เอาล่ะ เดี๋ยวเรามาแนะนำ 3 ร้านค้ายอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจากบรรดาร้านค้าทั้งหมดในโตเกียวคาแรคเตอร์สตรีทกันดีกว่าค่ะ

1. ดงกุริ เคียววาโคคุ (Donguri Kyowakoku)

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

ดงกุริ เคียววาโคคุ (Donguri Kyowakoku)」เป็นร้านจำหน่าย สินค้าจากการ์ตูนของสตูดิโอจิบลิ ที่มีบรรยากาศอบอุ่นจากหมู่แมกไม้น่ารักมากๆ

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

ภายในร้านเต็มไปด้วยสินค้าของจิบลิ เช่น สินค้าจากการ์ตูนเรื่อง 『My Neighbor Totoro (โทโทโร่ เพื่อนรัก)』บอกเลยว่ามีลูกค้าแวะมาซื้อกลับไปเป็นของฝากให้ตัวเองและของขวัญให้เพื่อนๆและครอบครัวเยอะมากเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะลูกค้าชาวเอเชียจะมีเยอะเป็นพิเศษ

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

และสินค้ายอดนิยมเป็นพิเศษของร้านก็คือ สินค้าซีรีส์ตุ๊กตาหุ่นกระบอก นั่นเอง เราสามารถซื้อแยกหรือซื้อเป็นเซ็ตรวมตุ๊กตาหุ่นกระบอก 5 ตัวจากการ์ตูนเรื่องต่างๆได้ เช่น『Spirited Away (มิติวิญญาณ)』และ『Princess Mononoke (เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร)』เป็นต้น

ตัวสินค้าทำออกมาได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ ถึงแม้จะตัวเล็กไปหน่อย แต่สีหน้าของทุกตัวละครน่ารักน่าหยิกม๊ากก! น่ารักจนอยากซื้อมาเก็บสะสมให้ครบทุกแบบเลยล่ะค่ะ

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

ภายในร้านมีการฉายการ์ตูนของจิบลิและประดับตกแต่งไม้กวาดและวิทยุที่ปรากฏในภาพยนตร์จริงๆ ทำให้รู้สึกชวนฝันสุดๆ ในวันนี้ก็มีลูกค้าแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่นี่กันเยอะแยะเลยทีเดียว

ที่โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีทแห่งนี้มีความพยายามที่จะ「สร้างความทรงจำ」 ให้ลูกค้าเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่จำหน่ายสินค้าเท่านั้น ดังนั้นจึงมีการจัดเตรียมจุดสำหรับถ่ายรูปที่ระลึกไว้ในทุกร้านค้า

2. ร้านฮัลโหลคิตตี้

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

ต่อไปก็เป็นร้านฮัลโหลคิตตี้ที่จำหน่าย สินค้าตัวการ์ตูนของซานริโอ ภายในร้านเรียงรายไปด้วยสินค้าน่ารักๆที่ชวนทำให้ชีวิตประจำวันมีสีสันมากยิ่งขึ้น ที่นี่มีลูกค้ามากมายทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยล่ะค่ะ

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

ที่นี่จำหน่ายสินค้าตัวการ์ตูนของซานริโอทุกประเภทก็จริง แต่ที่ดูจะได้รับความนิยมมากที่สุดก็หนีไม่พ้น ฮัลโหลคิตตี้ เลย ส่วนสินค้าแนะนำก็จะเป็นสินค้าที่ทำให้สัมผัสถึงความเป็น “ญี่ปุ่น” เช่น ตุ๊กตาคิตตี้ใส่ชุดกิโมโน เป็นต้น

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

นอกจากนี้ ภายในร้านก็ยังมีสินค้าตัวการ์ตูนซานริโอมากมายอย่างมายเมโลดี้และปอมปอมปูริน สำหรับใครที่มีตัวการ์ตูนในดวงใจนอกจากคิตตี้บอกเลยว่าต้องกรี๊ดกร๊าดกันแน่นอน!

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

ทางร้านจำหน่ายสินค้าซีรีส์เฉพาะของสถานีโตเกียวที่หาซื้อไม่ได้จากที่อื่นด้วยนะเออ… กระเป๋าคิตตี้จังลายสถานีรถไฟน่าร๊ากกก

3. โปเกม่อนสโตร์

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

และสุดท้ายก็คือ “โปเกม่อนสโตร์” นั่นเอง ที่นี่จำหน่ายสินค้าคัดพิเศษจากสินค้ามากกว่า 2500 แบบที่จำหน่ายในโปเกม่อนเซ็นเตอร์

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

และนี่ก็คือ “โปเกม่อนการ์ดเกม” ที่ดังไกลถึงต่างประเทศกันเลยทีเดียว เนื่องจากทั้งราคาไม่แพง แถมยังแจกจ่ายให้เพื่อนๆได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝากสุดๆ

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

และช่วงนี้สินค้าแนวเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ได้รับความนิยมสูงไม่แพ้กันเลย โดยมีจำหน่ายมากมายหลายแบบทั้งเสื้อยืด, เสื้อคลุมกันลม และถุงเท้า เป็นต้น ทางร้านแอบกระซิบว่าสินค้าที่สามารถสวมใส่ร่างกายได้ฮิตในหมู่ชาวต่างชาติเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

และนี่ก็คือ ตุ๊กตาปิกาจู ซีรีส์เฉพาะของสถานีโตเกียว ยอดฮิตของทางร้าน เนื่องจากเราสามารถหาซื้อได้จากที่นี่เท่านั้น รับรองถ้าซื้อกลับไปอวดเพื่อนๆจะต้องอิจฉากันแน่นอน!!

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

และสิ่งสุดท้ายที่อยากให้สังเกตกันก็คือ ใต้เท้าของรูปปั้นปิกาจูเวอร์ชั่นหัวหน้าสถานีรถไฟซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำร้าน นั่นเอง ความจริงแล้วมันซ่อนลายเซ็นของเหล่าผู้ที่มีบทบาทสำคัญในโลกโปเกม่อนตั้งแต่คุณมะสุดะ จุนอิจิ ผู้สร้างเกมโปเกม่อนเลยทีเดียว ยังไงเพื่อนๆก็อย่าลืมแวะมาหากันให้ได้นะคะ ^^

————————————————————————————————————————
© 2016 Pokémon.
© 1995-2016 Nintendo/Creatures Inc. /GAME FREAK inc.
————————————————————————————————————————

วิธีการเดินทางจากช่องตรวจตั๋ว

สถานีโตเกียวกว้างใหญ่ม๊ากก แถมยังมีทางออกมากกว่า 1 แห่งอีกต่างหาก สำหรับใครที่เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกจึงมีโอกาสหลงสูงมาก สุดท้ายนี้เราจึงขอมาแนะนำวิธีการเดินทางไปยังโตเกียวคาแรคเตอร์สตรีทแห่งนี้กันค่ะ

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

ก่อนอื่นให้มุ่งหน้าไปยัง ช่องตรวจตั๋วใต้ดิน ของประตูฝั่งยาเอสุ สถานีโตเกียว

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วแล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆจนเจอสัญลักษณ์รูปเครื่องหมาย + ตรงพื้นแบบนี้ ว่าแล้วก็เลี้ยวซ้ายตามป้ายไปเลยค่ะ

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!

เดินตรงต่อไปเรื่อยๆก็เจอแล้ว เย้〜

โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีทแห่งนี้สามารถเดินทางมาได้สะดวกมากๆ แถมสามารถซื้อของฝากตัวการ์ตูนชื่อดังได้ทั้งหมดภายในแห่งเดียวอีกด้วย นอกจากร้านค้าที่เราได้แนะนำกันไปในครั้งนี้ก็ยังมีร้านค้าที่ทุกคนน่าจะถูกใจอีกเพียบเลย เช่น ร้านค้าทางการของนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ และ ร้านจำหน่ายสินค้าของการ์ตูนเรื่องอุลตร้าแมน เป็นต้น

ใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวในโตเกียวก็อย่าพลาดที่นี่กันด้วยนะคะ ^^

「โตเกียวคาแรคเตอร์สตรีท」ศูนย์รวมตัวการ์ตูนยอดฮิต!
[info-l] Tokyo Station Ichibangai B1, 1 Chome-9-1 Marunouchi, Chiyoda-ku, Tōkyō-to (โทร. 03-3210-0077)
[info-t] 10:00-20:00 น.
[info-d] สถานีโตเกียว (Tokyo Station) เดินจากช่องตรวจตั๋วประตูกลางชั้นใต้ดินของยาเอสุ 2 นาที
[info-w] www.tokyoeki-1bangai.co.jp/street/character
[info-g] 35.681788,139.766761

[googlemaps https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m18!1m12!1m3!1d3240.805440983705!2d139.76457231543725!3d35.68179233754828!2m3!1f0!2f0!3f0!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x0%3A0x0!2zMzXCsDQwJzU0LjQiTiAxMznCsDQ2JzAwLjMiRQ!5e0!3m2!1sth!2sus!4v1470646125535&w=400&h=300]

ที่มาของบทความ: MATCHA
Matcha เว็บไซต์แม็กกาซีน การท่องเที่ยวญี่ปุ่น