Home Blog Page 128

Schengen Visa ขอทีเดียวก็เที่ยวได้ทั่วยุโรป

เชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa)

คือวีซ่าที่สามารถใช้ร่วมกันในกลุ่มประเทศเชงเก้นซึ่งประกอบด้วยประเทศในกลุ่มยุโรป 22 ประเทศ และประเทศในพื้นที่ใกล้เคียงอีก 4 ประเทศ เชงเก้นวีซ่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวประเทศในกลุ่มยุโรปหลายๆ ประเทศในทริปเดียว โดยไม่ต้องไล่ขอวีซ่าทีละประเทศอีกต่อไป เรียกได้ว่าขอเชงเก้นวีซ่าครั้งเดียว ก็เปรี้ยวได้ทั้งทริปเลยล่ะค่ะ แต่ก่อนอื่นเราจะต้องมาดูกันก่อนว่าในแผนการเดินทางที่จะไปนั้นเราจะไปประเทศไหนบ้าง?

ประเทศที่สามารถใช้วีซ่าร่วมกันจะต้องเป็นประเทศในกลุ่มเชงเก้น (Schengen Countries) มีทั้งหมด 26 ประเทศดังนี้ค่ะ ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, สาธารณรัฐเชก, เดนมาร์ค, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, กรีซ, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, อิตาลี, ลัตเวีย, ลิกเทนสไตน์, ลิทัวเนีย, ลักแซมเบิร์ก, มอลต้า, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, นอร์เวย์, โปรตุเกส, สโลวีเนีย, สโลวาเกีย, สเปน, สวีเดน และ สวิสเซอร์แลนด์

country_03ประเทศในกลุ่มเชงเก้นทั้งหมด 26 ประเทศ ที่สามารถใช้วีซ่าเชงเก้นเดินทางเข้าออกประเทศได้แบบไม่จำกัด

จะเห็นได้ว่าประเทศในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ยกเว้นก็แต่เพียงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ลิกเตนสไตน์ และไอซ์แลนด์ ที่อยู่ในกลุ่มเชงเก้น แต่ไม่ได้เป็นสมาชิก EU

**ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่วางแผนจะไปทริปยุโรป** ยังมีอีก 4 ประเทศในสหภาพยุโรปที่ไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่มเชงเก้น ได้แก่ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ บัลแกเรีย และ โรมาเนีย ที่ยังต้องขอวีซ่าแยกอยู่ ก่อนจะเดินทางอย่าลืมตรวจเช็กให้ดีนะคะ

 

ขอวีซ่าแบบไหนดีล่ะ?

เชงเก้นวีซ่า แบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้เดินทาง สำหรับคนที่ไปทริปสั้นๆ จะเป็นแบบ วีซ่าพำนักระยะสั้น พำนักในเขตประเทศเชงเก้นรวมไม่เกิน 90 วัน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจะแบ่งออกไปอีกเป็น

  • วีซ่าประเภทเข้า-ออกครั้งเดียว (Single entry visa) สำหรับคนที่มีแผนการเดินทางแค่ในประเทศเชงเก้น โดยจะเดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้แค่หนเดียว เมื่อออกจากพื้นที่ประเทศเชงเก้นแล้วจะกลับเข้ามาไม่ได้อีก (แต่ภายในประเทศเชงเก้นด้วยกันเองจะเข้าออกเท่าไหร่ก็ได้)
  • วีซ่าประเภทเข้า-ออกหลายครั้ง (Multiple entry visa) สำหรับคนที่มีแผนการจะไปเที่ยวประเทศอื่นนอกจากประเทศเชงเก้น และต้องมีการออกจากพื้นที่ประเทศเชงเก้นแล้วกลับมาอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังมี วีซ่าพำนักระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการพำนักในประเทศเชงเก้นมากกว่า 90 วัน และ วีซ่าสนามบิน สำหรับเปลี่ยนเครื่องบินในพื้นที่เขตประเทศเชงเก้น ซึ่งตรงนี้ชาวไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่าสนามบินค่ะ (ยกเว้นกรณีที่ต้องเดินทางออกจากสนามบินแรกไปต่อไฟลท์ที่สนามบินอื่น จะยังต้องขอวีซ่าประเภทนี้อยู่)

 

เอกสารของวีซ่าเชงเก้น

สิ่งที่คนส่วนมากกลัวเวลาที่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเอง นั่นก็คือขั้นตอนการขอวีซ่า โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรปแล้วก็ยิ่งร่ำลือกันว่าขอได้ยากเย็นนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นไปเสียหมด ถ้าเราเตรียมตัวไปพร้อม โอกาสที่จะขอวีซ่าผ่านก็มากขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำเตรียมเอกสารที่จำเป็นในการขอวีซ่าให้พร้อมก่อนไปยื่น โดยเอกสารทั้งหมดมีดังนี้

  1. รูปถ่าย 2 ใบ (ขนาด 5 × 3 cm. หรือ 2 นิ้ว ฉากหลังของรูปเป็นสีขาว)
  2. สมุดบัญชีธนาคาร หนังสือรับรองการเงินจากธนาคาร หรือเอกสารอื่นที่ใช้รับรองฐานะทางการเงินได้
  3. จดหมายรับรองการทำงาน ที่ออกโดยนายจ้าง ระบุ ตำแหน่ง ชื่อบริษัท เงิน เดือน วันที่เริ่มเข้างานและข้อความที่ระบุว่าบริษัทอนุญาตให้ผู้ขอวีซ่าลาหยุดได้ ในช่วงเวลาและประเทศที่จะขอวีซ่า หากผู้ขอวีซ่าเป็นเจ้าของกิจการ ต้องเตรียม เอกสารประกอบธุรกิจมาด้วย เช่นเอกสารการจดทะเบียนธุรกิจ
  4. หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ที่ มีวงเงินประกันสูงเพียงพอ (ไม่ต่ำกว่า 30,000 เหรียญยูโร หรือ 1,500,000 บาท) และมีผลคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่ผู้ร้องพำนักอยู่ในกลุ่มประเทศสัญญาเชงเก้น
  5. แบบฟอร์มวีซ่า กรอกข้อมูลครบถ้วนและเซ็นชื่อ 1 ชุด
  6. หนังสือเดินทาง หรือเอกสารแทนหนังสือเดินทาง (travel document) ซึ่งเป็นที่ ยอมรับของทุกประเทศในกลุ่มสัญญาเชงเก้น และจะต้องมีอายุใช้ได้อย่างน้อยอีก 3 เดือนจากวันที่สิ้นสุดวีซ่า
  7. หนังสือได้รับความยินยอมจากบิดาหรือมารดาที่ไม่ได้ไปด้วย?สำหรับเด็กอายุตํ่ากว่า 20 ปี ที่เดินทางไปกับบิดาหรือ มารดาเพียงคนใดคนหนึ่ง ต้องแสดง โดยออกได้ที่ที่ว่าการเขตหรือที่ว่าการอำเภอ
  8. ใบจองตั๋วเครื่องบิน หรือหลักฐานแสดงเส้นทางการเดินทาง เช่น ใบจองเที่ยวบินโดยสารขาไปและขากลับ หรือใบจองที่พัก และแผนการเดินทางอย่างละเอียด
  9. สำเนาเอกสารทั้งหมดที่ยื่นแสดงอย่างละ 1 ฉบับ (สำหรับสำเนาหนังสือเดินทาง ใช้หน้าคู่ที่มีรูปถ่ายเจ้าของหนังสือเดินทาง)
  10. ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า ราคาแตกต่างกันไปตามประเภทของวีซ่า

 

ไปหลายประเทศต้องขอวีซ่าที่ไหน?

ซึ่งการจะไปยื่นขอวีซ่าที่ไหนนั้น จะต้องดูประเทศที่จะเดินทางไป หากต้องการเดินทางไปเพียง 1 ประเทศในเชงเก้น จะต้องไปยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศนั้นๆ แต่หากจะไปหลายประเทศในเชงเก้น ให้ดูว่าจะพักอยู่ที่ไหนนานที่สุด หรือเป็นสถานที่จุดมุ่งหมายในการเดินทาง (เช่น ไปติดต่อธุรกิจ หรือไปเยี่ยมญาติ) ก็ให้ไปยื่นที่สถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศนั้นๆ หรือหากไปหลายประเทศเท่าๆ กัน ให้ไปยื่นประเทศแรกที่ไปค่ะ แนะนำว่าถ้ารู้แผนการเดินทางและจองไฟลท์บิน จองโรงแรมได้เมื่อไหร่ ก็ควรไปยื่นขอวีซ่าตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะคิวการพิจารณาจะค่อนข้างยาว หากเอกสารไม่ครบหรือมีการเรียกขอให้แสดงเอกสารเพิ่มเติมก็อาจทำให้การอนุมัติวีซ่าล่าช้าลงไปอีกได้ พอได้เชงเก้นวีซ่ามาแล้ว ทีนี้ก็เตรียมเที่ยวแบบเปรี้ยวซ่ากันได้เต็มที่ จะไปไหนมาไหนเข้าออกประเทศในพื้นที่เชงเก้นได้สบาย รับรองว่าวีซ่าใบเดียวก็เปรี้ยวได้จริงๆ ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือ “ยุโรป เส้นทางสายโรแมนติก” โดย Travelkanuman

Roussillon เมืองสีส้ม ณ โพรวองซ์

เห็นภาพแบบนี้แล้วยังอย่าเพิ่งคิดสงสัยว่าใครช่างมือซน เอาภาพถ่ายบ้านเมืองมาปรับในโปรแกรม Photoshop แต่งสีซะแดงจ๋าส้มจัดเช่นนี้…เพราะภาพที่เห็นนี้คือสีของบ้านเมืองที่มีอยู่จริงๆ บนโลกนี้ค่ะ สถานที่แห่งนี้ก็คือ Roussillon หมู่บ้านสีส้มแห่งแคว้นโพรวองซ์ ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง

Roussillon (ออกเสียงว่าครุส-สิ-ยง) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ เขตเมือง Vaucluse ส่วนหนึ่งของแคว้นโพรวองซ์ (Provence-Alpes-Côte d’Azur region) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส หมู่บ้านแห่งนี้มีจุดเด่นที่บ้านเรือนสีสันสดใส ทั้งสีส้ม แดง และน้ำตาล ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” ด้วย! (แต่ช้าก่อน… หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส มีมากถึง 157 แห่งด้วยกัน ทุกที่ล้วนเป็นที่สุดในคนละแบบ แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าติดในทำเนียบ Les Plus Beaux Villages de France ที่แปลว่า The most beautiful villages of France แล้ว ทุกหมู่บ้านล้วนได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ)

Provence-0480
Roussillon หมู่บ้านน่ารักโทนสีเดียวกันทั้งหมดราวกับนัดกันมา

สีส้มๆ แดงๆ ที่เห็นนี้มาจากสีธรรมชาติค่ะ เพราะที่ Roussillon มีผาหินสีส้มแปร๊ดที่ตั้งเด่นเป็นสง่าใกล้ๆ กับหมู่บ้าน ซึ่งนั่นก็คือแหล่งแร่ Ocre วัตถุดิบผลิตสีคุณภาพดี ที่นำมาใช้ในการก่อสร้างทาสีบ้านในหมู่บ้านนี้นี่เอง ซึ่งสีที่ผลิตได้ก็มีตั้งแต่สีเหลือง สีส้ม ไปจนสีแดง กลายเป็นเหตุผลว่าทำไมสีบ้านของที่หมู่บ้าน Roussillon แห่งนี้ถึงได้สีสดแสบทรวงยิ่งนัก อ้อ นอกจากนี้แล้ว บ้านหลังที่เป็นอิฐเปลือยไม่ได้โบกปูนหรือทาสีทับก็ยังมีสีสดใสไม่แพ้กันด้วยนะ ซึ่งชาวบ้านก็ใช้ก้อนหินจากผาหินที่มีแร่ Ocre มาก่อสร้างให้เห็นสีสดๆ ในเนื้อหินกันเลย

Provence-0503
บ้านสีเหลืองหลังนี้โชว์กำแพงอิฐสีแดงส้มให้เห็น ทั้งเมืองจะมีแต่สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาลไปในโทนเดียวกัน เหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆ

Provence-0475 (1)

สำหรับคนที่ต้องการชมผาหินแหล่งแร่ Ocre กันแบบจะจะ สามารถเดินเท้าจากหมู่บ้าน Roussillon ไปทางใต้เพียงนิดหน่อยก็จะมีทางขึ้นเขาไปชม “Sentier des Ocres” หรือทางเดินผาหิน Ocre สีส้มสดซึ่งมีทางเดินให้ลัดเลาะไต่เขาชมบรรยากาศสีสันแปลกตากันให้ชุ่มปอด ซึ่งเจ้า “Sentier des Ocres” นี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ หลังจากที่ครั้งหนึ่งสีที่ทำจากแร่ Ocre ของหมู่บ้าน Roussillon แห่งนี้กลายเป็นสินค้าส่งออกที่ได้รับความนิยมมาก จนผาหินของหมู่บ้านถูกขุดเจาะพรุนไปหมด ทางการจึงประกาศให้ “Sentier des Ocres” เป็นพื้นควบคุม ที่ห้ามไม่ให้มีการขุดเจาะแร่ไปใช้ และเปลี่ยนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดชาวต่างชาติให้มาสัมผัสหมู่บ้านสีส้มกับผาหินสีสันตระการตาจวบจนทุกวันนี้

Provence-0507

ใครที่อยากดูแหล่งแร่สีส้มๆ ก็ต้องมาชมที่ “Sentier des Ocres” เลย

[info-d “Avenue de la Burlière, 84220, Roussillon, France”]
[info-w “”] www.roussillon-provence.com
[info-g “43.899763,5.297921”]

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือ Provence (โพรวองซ์) ยกก๊วนชวนเพื่อนเที่ยว ฝรั่งเศสตอนใต้ โดย มิสกะโปโล

รู้จักกับเกาหลีก่อนไปลุย

เพื่อนๆ เคยไหมคะ? นั่งหน้าจอดูหนังฟังเพลงอินละครซีรี่ย์สเกาหลีแล้วก็อยากลุกไปแพ็คกระเป๋าหอบข้าวของไปตามรอยดารานักร้องเกาหลีซะบัดเดี๋ยวนี้ …แต่ก่อนจะไปลุยตามรอย K-pop K-Series เห็นทีจะต้องทำความรู้จักกับประเทศเกาหลีกันเสียก่อน จะได้ลุยได้สนุก ไม่ไปมึน (โฮ) กันเอาภายหลัง เพราะฉะนั้นเรามารู้จักข้อมูลเบื้องต้นคร่าวๆ ของประเทศเกาหลีกันก่อนดีกว่าค่ะ!

สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) หรือ ประเทศเกาหลีใต้ (South Korea) มีชื่อเรียกที่ชาวเกาหลีใช้เรียกประเทศตัวเองว่า “แดฮันมินกุก” (대한민국) บางครั้งก็เรียกย่อๆ ว่า “ฮันกุก” (한국: แปลว่า ชาวฮั่น ซึ่งหมายถึงคนเกาหลีนั่นเอง) หรือ บางครั้งจะเอาคำว่า “นัม” ซึ่งแปลว่า “ทางใต้” มาต่อเป็นคำว่า “นัมฮัน” (남한) ก็จะหมายถึง ชาวฮั่นทางใต้ เช่นเดียวกับที่ชาวเกาหลีเหนือจะเรียกเกาหลีใต้ว่า “นัมโชซอน” (남조선) ซึ่งหมายถึงโชซอนใต้นั่นเอง

ดอกมูกุงฮวา (무궁화) หรือ Rose of Sharon เป็นดอกไม้ประจำชาติเกาหลี จุดเด่นของดุอกมูกุงฮวาคือ ทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้ายและศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นอมตะของประวัติศาสตร์ชาติเกาหลี
ดอกมูกุงฮวา (무궁화) หรือ Rose of Sharon เป็นดอกไม้ประจำชาติเกาหลี จุดเด่นของดุอกมูกุงฮวาคือ ทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้ายและศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นอมตะของประวัติศาสตร์ชาติเกาหลี

ประเทศเกาหลีเคยตกเป็นอาณานิคมของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1910 จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 คาบสมุทรเกาหลีได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ เกาหลีเหนือ ซึ่งปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ และเกาหลีใต้ ซึ่งปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ประเทศเกาหลีใต้อยู่ทางตะวันออกของทวีปเอเชีย มีพื้นที่ประมาณ 99,500 ตร.กม. หรือประมาณ 1 ใน 5 ของเมืองไทยเท่านั้น พรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ ทางใต้เป็นทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลี ถัดจากทะเลไปทางตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นประเทศญี่ปุ่น

เมืองหลวงของเกาหลีใต้คือ กรุงโซล (Seoul) ซึ่งจัดเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดของประเทศ คือกว่า 14 ล้านคนจากจำนวนประชากรทั้งประเทศ 48.8 ล้านคน คิดเป็นหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งหมดทีเดียว หรือถ้ารวมเอาปริมณฑลเช่น เมืองอินชอน เข้าไปด้วยตัวเลขก็จะพุ่งขึ้นสูงถึง 25 ล้านคน หรือราวครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งจัดว่าหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับสองของโลก เป็นรองก็แค่พื้นที่โตเกียว-โยโกฮามาของญี่ปุ่นเท่านั้น

 

เมืองและจังหวัดของเกาหลี

เกาหลีใต้แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 จังหวัด 6 มหานคร มี 1 นครพิเศษ และ 1 จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ ดังนี้

1 นครพิเศษ ได้แก่ โซล/ซออุล เมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้

6 มหานคร ภาษาเกาหลีเรียกว่า กวางยอกชี (광역시) ได้แก่ ปูซาน/พูซาน, แทกู, อินชอน, กวางจู/ควางจู, แทจอน และ อุลซาน

8 จังหวัด ภาษาเกาหลีเรียกว่า โด (도) ได้แก่ คยองกี-โด, คังวอน-โด, คยองซังบุก-โด, คยองซังนัม-โด, ชอนลาบุก-โด, ชอนลานัม-โด, ชุงชองบุก-โด และชุงชองนัม-โด

และ 1 จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ เป็นเกาะทางใต้สุดของประเทศ ชื่อว่า เชจู-โด

นอกจากนี้ยังมีหน่วยย่อยลงไปอีกคือ เมือง หรือ ชี (시) มีหลายเมืองรวมกันอยู่ในแต่ละเขตการปกครองนั่นเอง

 

ภาษาเกาหลี

สำหรับภาษาพูดที่ใช้กันส่วนใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้จะมีสำเนียงท้องถิ่นมากมายแต่ก็ไม่ต่างกันมาก ยกเว้นสำเนียงท้องถิ่นบนเกาะเชจูที่มีความแตกต่างจากทื่อื่นค่อนข้างมาก สำหรับสำเนียงที่ถือเป็นสำเนียงทางการของเกาหลี ก็คือสำเนียงแบบที่ใช้ในกรุงโซลนั่นเอง (คล้ายๆ ประเทศเราถือสำเนียงแบบกรุงเทพฯ เป็นสำเนียงทางการนั่นเอง)

ส่วนอักษรของเกาหลีเรียกว่า ฮันกึล (한글: : Hangeul) หรือ ฮันมุน ใช้แทนตัวอักษรแบบจีนที่เรียกว่า ฮันจา นอกจากนี้ในการนับเลขหรือนับสิ่งต่างๆ ของเกาหลี ก็มีการแยกใช้เป็นการนับแบบเกาหลีแท้ และการนับแบบจีน แยกย่อยออกไปตามแต่สถานการณ์อีก เช่น อายุ จำนวนนับ หรือเวลา (หน่วยเป็นชั่วโมง) จะใช้การนับแบบเกาหลีแท้ ส่วนราคาสินค้า วัน เดือน ปี เวลา (หน่วยเป็นนาที) หรืออะไรที่เป็นตัวเลขจะใช้วิธีนับแบบจีน ซึ่งการนับทั้งสองแบบนี้ออกเสียงและเขียนต่างกันด้วย

แทกึกกี้ (Taegeukgi) เป็นชื่อเรียกธงประจำชาติของประเทศเกาหลีใต้ โดยมีจุดเด่นคือวงกลมสีแดงน้ำเงินที่อยู่ตรงกลางเรียกว่า “แทกึก”
แทกึกกี้ (Taegeukgi) เป็นชื่อเรียกธงประจำชาติของประเทศเกาหลีใต้ โดยมีจุดเด่นคือวงกลมสีแดงน้ำเงินที่อยู่ตรงกลางเรียกว่า “แทกึก”

เรื่อง : DPlus Guide Team
ข้อมูลจาก : หนังสือ “เกาหลี ตะลอนเที่ยว เล่มเดียวเอาอยู่”

ทำไมต้อง “เที่ยวฮอกไกโด” ?

หน้านี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่คนไปเที่ยวฮอกไกโด ฮอกไกโด และฮอกไกโด มีแต่คนไปเที่ยวฮอกไกโดกันเต็มไปหมด! ไม่ว่าจะไปเอง ไปกับทัวร์ หรือแม้แต่รางวัลชิงโชคของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายเจ้าก็ยังอินเทรนด์พาผู้โชคดีไปกันถึงถิ่นทะเลเหนือ

เจ้าเกาะรูปทรงสามเหลี่ยมแปลกตานี้มีดีอย่างไร ทำไมใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวกัน DPlus Giude Team จะพาไปรู้จักกับ “เกาะฮอกไกโด” สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทยในช่วงปีนี้ให้หายคาใจกันค่ะ

 

รู้จักกับ ‘ฮอกไกโด’ กันก่อน

เกาะฮอกไกโด เป็นภูมิภาคใหญ่ตั้งอยู่ด้านบนสุดของประเทศญี่ปุ่น
เกาะฮอกไกโด เป็นภูมิภาคใหญ่ตั้งอยู่ด้านบนสุดของประเทศญี่ปุ่น

 

ฮอกไกโดอยู่ที่ไหน? เกาะฮอกไกโดตั้งอยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น ใกล้กับประเทศรัสเซียและติดทะเลโอคอทสก์ (Sea of Okhotsk) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหนาวเย็นขนาดที่ว่า ในช่วงฤดูหนาวน้ำในทะเลโอคอทสก์จะจับตัวเป็นแผ่นน้ำแข็ง จนชาวประมงไม่สามารถหาปลาได้ ต้องใช้เรือตัดน้ำแข็งวิ่งผ่าน ซึ่งที่ฮอกไกโดนี้ก็มีกิจกรรมนั่งเรือตัดน้ำแข็งชมวิวทะเลหนาวๆ ให้ตื่นตาตื่นใจกันด้วย

เนื่องจากเกาะฮอกไกโดอยู่เหนือกว่าส่วนอื่นของประเทศญี่ปุ่นขึ้นไป จึงมีอุณหภูมิหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่นในประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีประชากรอาศัยอยู่บนเกาะน้อยมาก คือ เพียง 4% ของประชากรทั้งประเทศ ทั้งๆ ที่ตัวเกาะกินพื้นที่มากถึงเกือบ 1 ใน 4 ของประเทศญี่ปุ่น แต่นั้นก็เป็นข้อดีที่ทำให้เกาะฮอกไกโดมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับการทำเกษตรกรรม ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และยังคงความงามของแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะอุทยานแห่งชาติที่มีถึง 6 แห่ง น้ำตกสวยงามต่างๆ และบ่อน้ำร้อนออนเซ็นจำนวนมากที่กระจายตัวอยู่บนเกาะ เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติอยากมาสัมผัสประสบการณ์พักผ่อนหย่อนใจแบบครบเครื่องที่ฮอกไกโดดูสักครั้ง

 

‘ฮอกไกโด’ มีอะไรให้เที่ยว?

ด้วยสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศอันโดดเด่น ฮอกไกโดจึงเป็นสถานที่ที่มีกิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่น ชนิดที่หาจากที่ไหนไม่ได้แน่นอน และถ้าไม่ได้มาก็เหมือนมาไม่ถึงฮอกไกโด อันได้แก่

 

ชมสวนสวยเมืองหนาว

สวนลาเวนเดอร์ แห่งเมืองฟุระโนะ (Furano) ยามฤดูร้อนลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งไปทั่วหุบเขา เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่พลาดไม่ได้
สวนลาเวนเดอร์ Highland Furano แห่งเมืองฟุระโนะ (Furano) ยามฤดูร้อนลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งไปทั่วหุบเขา เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่พลาดไม่ได้

 

 

เมื่อพูดถึงฮอกไกโด สิ่งแรกที่ปรากฏในความคิดของใครหลายๆ คนคงเป็นภาพทุ่งดอกไม้หลากสีตัดสลับกันดั่งสายรุ้ง ทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงอ่อนละลานตา หรือทุ่งพิงค์มอสสีชมพูเหมือนปูด้วยพรมสีหวานน่ารัก ที่มีให้เห็นเว็บไซต์หรือแผ่นพับประชาสัมพันธ์ของฮอกไกโด

ทั้งนี้เพราะฮอกไกโดเป็นพื้นที่ที่มีพร้อมทั้งดินและสภาพอากาศที่จะทำให้ดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่งสวยงามไปทั้งหุบเขานั่นเอง สำหรับทุ่งดอกไม้ห้าสี และทุ่งลาเวนเดอร์ จะบานตั้งแต่เดือนพ.ค. เป็นต้นไปจนสิ้นสุดฤดูร้อน สามารถไปชมกันได้ที่เมืองฟุระโนะ (Furano) ส่วนทุ่งพิงค์มอสสีชมพูสดใส จะบานในช่วงปลายเดือนพ.ค.-กลางเดือนมิ.ย. ที่ทาคิโนะอุเอะ (Takinoue) ใกล้เมืองมอนเบ็ทสึ (Monbetsu) นอกจากนี้ฮอกไกโดยังมีเทศกาลชมไม้ดอกอื่นๆ อาทิ ดอกทิวลิป ดอกไลแลค หรือดอกลิลี่ป่า ตามเมืองต่างๆ ตลอดช่วงฤดูที่ไม่มีหิมะอีกด้วย

[icon sm] บทความที่เกี่ยวข้อง:

– เที่ยวฮอกไกโด ถ้าอยากชมลาเวนเดอร์ต้องไปที่ไหน?

– เที่ยวฮอกไกโด ตะลุย 9 สวนสวย เหนือจรดใต้

ธรรมชาติงดงาม

เส้นทางเดินพิชิต ยอดเขาคุโรดาเกะ มีป่าไม้ธรรมชาติหลากสีตัดกับพื้นหินภูเขาไฟสีเข้มในบรรยากาศอากาศเย็นๆ ให้ชมตลอดทาง
เส้นทางเดินพิชิต ยอดเขาคุโรดาเกะ มีป่าไม้ธรรมชาติหลากสีตัดกับพื้นหินภูเขาไฟสีเข้มในบรรยากาศอากาศเย็นๆ ให้ชมตลอดทาง

 

 

นอกจากสวนที่เพาะปลูกกันเป็นล่ำเป็นสันแล้ว ด้วยภูมิอากาศและดินอันอุดมสมบูรณ์ที่ว่ามา ฮอกไกโดยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา หรือป่าเขา เนินสวย อุทยานแห่งชาติ บ่อบึงตามธรรมชาติต่างๆ ที่งดงามไม่แพ้สวนที่ตั้งใจปลูกเลยค่ะ

ไฮไลท์สำคัญของการชมธรรมชาติฮอกไกโดนั้นคือ อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง ซึ่งเป็นอุทยานขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอกไกโด มียอดเขาที่สูงที่สุดในฮอกไกโด เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เมื่อขึ้นไปจะได้เห็นวิวทิวป่าเขาสลับซับซ้อนต่างๆ บนจุดที่สูงที่สุดในเกาะด้วยค่ะ

[icon at] บทความที่เกี่ยวข้อง:

– ชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่อุทยานไดเซ็ตสึซัง (Asahidake)

– ชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่อุทยานไดเซ็ตสึซัง (Kurodake)

– 9 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น

– พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น

 

ชิมอาหารอร่อย

ปูตัวใหญ่ๆ แบบนี้หาทานได้ที่เมืองซัปโปโร มีร้านบุฟเฟ่ต์ปูให้ทานกันแบบไม่อั้น รับรองจุใจ!
ปูตัวใหญ่ๆ แบบนี้หาทานได้ที่เมืองซัปโปโร มีร้านบุฟเฟ่ต์ปูให้ทานกันแบบไม่อั้น รับรองจุใจ!

 

เมื่อพูดถึงฮอกไกโด อีกสิ่งนอกเหนือจากทุ่งดอกไม้แล้วก็คงไม่พ้นอาหารการกินที่ขึ้นชื่อลือชา สิ่งหนึ่งที่เป็นความใฝ่ฝันของนักชิม ชนิดที่ว่ามาแล้วพลาดไม่ได้ก็คือ ปู!!

“ปูฮอกไกโด” เป็นอาหารทะเลอันขึ้นชื่อที่ว่ากันว่า ถ้ามาฮอกไกโดแล้วไม่ได้ทานปูก็เหมือนมาไม่ถึง ปูที่นี่มีรสหวานเนื้อแน่น อีกทั้งยังตัวใหญ่จนเรียกได้ว่าเป็นปูยักษ์ ที่ฮอกไกโดมีทั้งร้านอาหารทะเลสดๆ ร้านซูชิ ร้านอาหารทะเลปิ้งย่าง และมีแม้กระทั่งร้านบุฟเฟ่ต์ปู!

นอกจากนี้ มีตลาดอาหารทะเลให้ช้อป แบบ ‘เลือก-ชี้-ช้อป’ จะปลาดิบ ไข่ปลา ไข่หอยเม่น ปลาหมึก หอยยักษ์ แล้วเอามาโปะในจานให้ทานสดๆ เหมือนเสิร์ฟตรงจากทะเลเลยทีเดียว

ส่วนอาหารอื่นๆ นอกเหนือจากอาหารทะเล ฮอกไกโดก็ยังมีอาหารประจำถิ่นต่างๆ อย่าง “ยากิโทริเนื้อหมู” ของดีเมืองมุโรรัน (Muroran) (Yakitori แปลว่า ไก่ย่าง แต่เอ๊ะ ทำไมถึงกลายเป็นเนื้อหมูไปซะได้ แบบนี้ต้องลอง!) หรือจะเป็น 4 ราเมนขึ้นชื่อของฮอกไกโดที่จะมีเอกลักษณ์ต่างกันตามแต่ละพื้นที่ ได้แก่ ราเมนซัปโปโร ราเมนคุชิโระ ราเมนอาซาฮิคาวะ และ ราเมนฮาโกดาเตะ

นอกจากของคาวจะเลิศแล้ว ของหวานก็มียั่วน้ำลายไม่แพ้กัน อย่างที่กล่าวไปว่าฮอกไกโดมีทรัพยากรทางธรรมชาติและภูมิอากาศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จึงทำให้ผลผลิตทางการเกษตรของที่นี่เขาไม่แพ้ใคร ไม่ใช่แค่ผักผลไม้สดๆ กรอบๆ เท่านั้น แต่นมและขนมหวาน ผลิตภัณฑ์จากฟาร์มในฮอกไกโดล้วนเป็นของขึ้นชื่อ หากใครเป็นคอของหวานก็คงพลาดช็อคโกแลต “Shiroi Koibito” ของฝากขึ้นชื่อของเมืองซัปโปโรไปไม่ได้แน่นอน

[icon sp] บทความที่เกี่ยวข้อง

– 7 ขนมของฝาก ที่ต้องติดมือเมื่อไป Hokkaido

 

กิจกรรมเมืองหิมะ

เทศกาลน้ำแข็ง เมืองซูซูกิโนะ ส่วนหนึ่งของงานเทศกาลหิมะเมืองซัปโปโร จัดขึ้นทุกเดือนกุมภาพันธ์ เนรมิตรเมืองให้กลายเป็นทางเดินน้ำแข็งสวยงามตระการตา
เทศกาลน้ำแข็ง เมืองซูซูกิโนะ ส่วนหนึ่งของงาน เทศกาลหิมะเมืองซัปโปโร จัดขึ้นทุกเดือนกุมภาพันธ์ เนรมิตรเมืองให้กลายเป็นทางเดินน้ำแข็งสวยงามตระการตา

 

ด้วยความหนาวเย็นของฮอกไกโด ที่หนาวกว่าโตเกียวประมาณ 10 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังหนาวนานกว่าส่วนไหนๆ ในประเทศ จึงมีกิจกรรมช่วงฤดูหนาวที่หาไม่ได้ในภาคอื่นของประเทศญี่ปุ่น

อย่างเทศกาลหิมะที่จะจัดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงในช่วงฤดูหนาวตามจุดต่างๆ ในเมือง กิจกรรมล่องเรือตัดน้ำแข็งตะลุยทะเลโอคอทสก์ที่เมืองมอนเบ็ทสึ (Monbetsu) และเมืองอะบาชิริ (Abashiri) รวมถึง กิจกรรมเล่นหิมะฤดูหนาว ที่มีทั้งสกี ลากเลื่อน ไปจนถึงได้ลองตกปลาบนน้ำแข็งจำลองชีวิตคนเมืองหนาวแบบชาวเผ่าไอนุ (Ainu) ชนเผ่าพื้นเมืองเกาะฮอกไกโดโบราณกันแบบสมจริง

เรียกได้ว่าช่วงหน้าหนาวนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสประสบการณ์หิมะ และเรียนรู้วัฒนธรรมไปด้วยเลย ก็ฮอกไกโดน่าเที่ยวครบเครื่อง ทั้งสวยงามตระการตา อาหารอร่อย แถมยังได้ประสบการณ์ซะขนาดนี้ ใครจะอดใจไม่ไปไหว!

[icon wt] บทความที่เกี่ยวข้อง:

– เที่ยวฮอกไกโดเทศกาลฤดูหนาว 2558 (Hokkaido Winter Festival 2015)

 

ผู้เขียน : DPlus Guide Team

Escargot หอยทากเมนูยอดนิยมของชาวฝรั่งเศส

Aix-en-Provence

อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นโพรวองซ์ของฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและมีมหาวิทยาลัยเก่าแก่กว่า 600 ปี เมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องน้ำพุที่มีมากมายกว่าร้อยแห่งทั่วเมือง เรียกได้ว่า เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้

หากใครมีโอกาสมาเที่ยวที่นี่ ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปช้อปๆ ชิลล์ๆ ในตลาดนัดยามเช้าที่มีอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะตลาดตรง หน้าศาลาว่าการเมือง (Place de I’Hotel de Ville) ที่มีในทุกวันพฤหัส ที่นี่จะเต็มไปด้วยร้านค้าขายดอกไม้สดสีสันสวยงาม ดึงดูดใจเหล่าสาวๆ ดีแท้ และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาด นั่นก็คือ การได้ลิ้มรสเมนูเด็ดอย่างหอยทากในซอสแดง ที่ส่งกลิ่นหอมหวน ชวนหิวไปทั่วตลาด พ่อค้าปรุงพร้อมเสิร์ฟแบบร้อนๆ

Fontaine de la Rotonde หรือน้ำพุใหญ่อันเป็นสัญลักษณ์เด่นตั้งอยู่ใจกลางเมือง
Fontaine de la Rotonde หรือน้ำพุใหญ่อันเป็นสัญลักษณ์เด่นตั้งอยู่ใจกลางเมือง

 

หอยทาก หรือเอสคาโก้ (escargot) เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยอย่างหรูของฝรั่งเศสที่ชาวต่างชาติหรือชาวไทยเราอาจมองว่าแปลกเล็กน้อย แต่ที่ฝรั่งเศสคนนิยมกันมาก (และมากที่สุดในโลก) โดยมีปริมาณบริโภคถึงสี่หมื่นตันต่อปีเลยทีเดียว หอยทากที่นำมาประกอบอาหารส่วนใหญ่เป็นหอยทากป่า แต่หลังๆ ก็เลี้ยงในฟาร์มมากขึ้น ซึ่งในฝรั่งเศสมีอยู่กว่า 200 ฟาร์ม แต่ก็ส่งผลิตภัณฑ์หอยทากออกสู่ท้องตลาดเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์เท่านั้นจากทั้งหมด และถ้าแม่ครัวกำลังนึกถึงเมนูหอยทาก อาจต้องปรึกษากับนายพรานล่วงหน้า เพราะหลัง จากจับหอยทากตัวเป็นๆ มาได้แล้ว (ส่วนใหญ่จะจับหลังฝนตก) ต้องปล่อยให้อดอาหาร 2 สัปดาห์ เพื่อให้หอยทากคายของที่กินเข้าไปออกมาจนหมดก่อน ถึงจะนำมาปรุงอาหาร

 

เมนูหอยทากแบบนี้ในตลาดสดมีขายอยู่ทั่วไป
เมนูหอยทากแบบนี้ในตลาดสดมีขายอยู่ทั่วไป

 

เจ้าหอยทากเนี่ย! ไม่ว่าจะปรุงด้วยเครื่องเทศชนิดใด จะกลายเป็นหอยทากอบชีส ผัดเนยกระเทียมพริกไทย หรือเมนูอร่อยใดๆ ก็ตาม ก็จะได้รับสารอาหารอุดมสมบูรณ์ ทั้งโปรตีนสูง ไขมันต่ำ (ถ้าไม่ได้ปรุงด้วยเนย) แถมยังพ่วงแคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามินซีอีกด้วย ถ้าได้ไปถึงฝรั่งเศสล่ะก็ อย่าลืมแวะชิมอาหารประจำถิ่นเมนูนี้สักมื้อนะจ๊ะ เดี๋ยวจะโดนหาว่าไปไม่ถึงฝรั่งเศสเอา!

 

หน้าตาแบบนี้ ไม่เหมือนกับหอยทากบ้านเรานะจ้ะ
หน้าตาแบบนี้ ไม่เหมือนกับหอยทากบ้านเรานะจ้ะ

 

บรรยากาศในตลาดนัด สะอาดสะอ้าน สะดวกสบาย เดินกันได้ชิลล์
บรรยากาศในตลาดนัด สะอาดสะอ้าน สะดวกสบาย เดินกันได้ชิลล์

เรียบเรียง : DPlus Guide Team
ข้อมูลและภาพ : หนังสือ Provence (โพรวองซ์) ยกก๊วนชวนเพื่อนเที่ยว ฝรั่งเศสตอนใต้ โดย มิสกะโปโล

Neuschwanstein Castle ปราสาทเทพนิยาย

Neuschwanstein-2

ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์เมือง Fussen แคว้นบาวาเรียประเทศเยอรมนี เป็นปราสาทเก่าแกอายุกว่า 160 ปี ชื่อเดิมคือ New Hohenschwangau ปราสาทแสนสวยแห่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ดิสนี่ย์เอาไปใช้เป็นต้นแบบในการสร้างปราสาทอีกด้วย เพราะความที่ตัวปราสาทนั้นมีความโดดเด่นในสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมากทั้งที่ตั้งของปราสาทยังเสริมสร้างจินตนาการอย่างมากมาย เพราะตั้งอยู่บนหินผาขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 200 เมตร เหนือแม่น้ำพอลลัท (Pollat) ทั้งยังล้อมรอบไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ ทำให้ฤดูต่างๆ มีทิวทัศน์ที่แตกต่างกันออกไป

วิธีการไปถึงตัวปราสาทที่ง่ายที่สุดคือ การนั่งรถบัสสาย 78 จากหน้าสถานีรถไฟไปลงที่ป้ายหน้าปราสาท (หาไม่ยากเพราะทุกคนแทบจะลงที่ป้ายนั้นกันหมด) แล้วเดินต่อขึ้นเขาไปอีกราวๆ 10-15 นาที หรือถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็มีรถม้าให้บริการที่บริเวณใกล้ป้ายรถบัส รวมทั้งมีร้านของที่ระลึกและร้านอาหารให้บริการอย่างมากมาย

บริเวณใกล้ๆ ป้ายรถบัสจะมีที่ขายตั๋วเข้าปราสาทอยู่แนะนำว่ามาแต่เช้าแล้วรีบเข้าคิวซื้อตั๋วจะสะดวกกว่า เพราะด้วยเป็นปราสาทที่ชื่อเสียงโด่งดังมาก ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างก็อยากมาเยี่ยมชม ผลก็คือ คิวที่ยาวมากถึงมากที่สุด หรือถ้าจะให้สะดวกที่สุดจริงๆควรจองตั๋วเข้าชมก่อนเข้ามาที่ปราสาทจะดีที่สุด ราคาค่าตั๋ว 12 ยูโร แต่ถ้าซื้อพร้อมตั๋วเข้าชมปราสาท Hohenschwangau จะเหลือ 23 ยูโร สำหรับ 2 ปราสาท

[info-t””]
เมษายน กันยายน 9.00-18.00 น.
ตุลาคม – มีนาคม 10.00-16.00 น.
เปิดทุกวันยกเว้น 1 มกราคม และ 24, 25, 31 ธันวาคม

[info-f””]
ผู้ใหญ่ 12 ยูโร เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 11 ยูโร ถ้าซื้อพร้อม ตั๋วเข้าชม Hohenschwangau Castle 23 ยูโร

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: หนังสือยุโรป เส้นทางสายโรแมนติก โดย Travelkanuman

Shofukuji Zen ฟุกุโอกะ

10 ที่เที่ยวฟูกุโอกะ (Fukuoka) เมืองทันสมัยกลิ่นไอประวัติศาสตร์

จังหวัดฟูกุโอกะ (Fukuoka) เป็นเขตเมืองหลักในภูมิภาคคิวชู มีเมืองฮากาตะ (Hakata) เป็นเมืองหลักของจังหวัด ถูกจัดอันดับเป็นเมืองน่าอยู่อันดับต้นๆ ของโลก โดยนิตยสาร Monole มีสาธารณูปโภคต่างๆ ที่พร้อมและครบครัน ทั้งที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 6 ของญี่ปุ่น แต่ที่นี่มีประชากรไม่แน่นหนามากอย่างโตเกียว หรือโอซาก้า บ้านเมืองก็ถูกจัดเป็นระเบียบ สะอาด น่าอยู่ และน่าเที่ยว ในด้านประวัติศาสตร์ฟูกุโอกะเป็นเมืองเก่าแก่ เดิมเป็นเพียงเมืองท่าหรือเมืองทางผ่านสำหรับเดินทางไปยังดาไซฟุ (Dazaifu) ศูนย์กลางการบริหารบ้านเมืองในช่วง ค.ศ....