Home Blog Page 94

Salon de Sweets ร้านบุฟเฟต์ของหวาน ที่โตเกียว (Tokyo)

Salon de Sweets

ร้านบุฟเฟต์ของหวาน ตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าโซระมะจิ (Tokyo Solamachi) โตเกียวสกายทรี เมืองโตเกียว เป็นร้านอาหาร พาสต้า เค้ก ขนมหวาน ทาร์ตผลไม้ มาการอง และขนมอื่นๆ อาหารที่เป็นสูตรของร้านนี้มีให้เลือกมากกว่า 50 อย่างจัดเรียงเป็นสัดส่วน ตกแต่งร้านสวยงามและนั่งสบาย

Salon de Sweets ร้านบุฟเฟต์ของหวาน ที่โตเกียว (Tokyo)

Salon de Sweets ร้านบุฟเฟต์ของหวาน ที่โตเกียว (Tokyo)

 

ที่อยากจะแนะนำคือ ร้านนี้มีบุฟเฟ่ต์ของหวานให้บริการ จุดเด่นขนมหวานร้านนี้ คือทำรสชาติออกมาไม่หวานมาก เค้กที่อร่อยและต้องลองเลยคือ ชีสเค้กและขนมที่ทำออกมาตามฤดูกาล ซึ่งใช้สตรอว์เบอร์รีหรือเมลอนนำมาเป็นส่วนผสม ใครที่อยากลองชิมทุกอย่างและไม่กลัวอ้วน เชิญมาชิมกันได้เลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารคาวอีก แต่เน้นอาหารเบาๆ เช่น สลัดผัก พร้อมน้ำสลัดต่างๆ ที่มีให้เลือก 4-5 ชนิด สปาเกตตี้ที่มาเติมใหม่ร้อนๆ ตลอดเวลา อาหารประเภทปลาหรือเนื้อสลับเปลี่ยนกันแต่ละวัน

Salon de Sweets ร้านบุฟเฟต์ของหวาน ที่โตเกียว (Tokyo)

Salon de Sweets ร้านบุฟเฟต์ของหวาน ที่โตเกียว (Tokyo)

Salon de Sweets ร้านบุฟเฟต์ของหวาน ที่โตเกียว (Tokyo)

Salon de Sweets ร้านบุฟเฟต์ของหวาน ที่โตเกียว (Tokyo)

Salon de Sweets ร้านบุฟเฟต์ของหวาน ที่โตเกียว (Tokyo)
[info-t]11:00 – 23:00 น.
[info-f]มื้อกลางวัน 1,890 เยน (เวลา 11:00 – 17:00 น.) จำกัดเวลา 70 นาที มื้อเย็น 2,520 เยน (17:00 – 23:00 น.) จำกัดเวลา 90 นาที ราคานี้ไม่รวม เครื่องดื่มหากต้องการจ่ายเพิ่ม 105 เยน เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เติมได้ตลอด
[info-w]http://www.tokyo-solamachi.jp/shop/296/
[info-l]ห้างสรรพสินค้าโซะระมะจิ โตเกียวสกายทรี (Tokyo Solamachi) ฝั่ง East-Yard ชั้น 6
[info-d]สถานี Tokyo Skytree
[info-g]35.710311, 139.810999

เรื่องและภาพ: Katto @Redlovetree | ข้อมูลจาก: หนังสือ Tokyo โตเกียวใครๆ ก็เที่ยวได้

สนามบิน New Chitose Airport (CTS) = อุดมสมบูรณ์ + เอ็นเตอร์เทน

New Chitose Airport (CTS)

ปกติสนามบินมักเป็นที่ที่เราใช้เวลาแวะไม่นานนัก เพียงแค่รอขึ้นเครื่อง หรือรอออกจากเครื่อง ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง (ถ้าจำเป็น) รับกระเป๋า แล้วก็เดินทางไปยังจุดหมายให้เร็วที่สุด แต่ที่ สนามบิน New Chitose Airport (รหัสสนามบิน CTS) เป็นมากกว่านั้น จนแทบจะใกล้เคียงห้างสรรพสินค้าขนาดย่อมทีเดียว

สนามบินเห็นเล็กนิดเดียวเมื่อมองจากเครื่อง แลนดิ้งกลางหิมะ
สนามบินเห็นเล็กนิดเดียวเมื่อมองจากเครื่อง แลนดิ้งกลางหิมะ
โถงใหญ่ของ New Chitose Airport ในส่วน Domestic เหมือนห้างขนาดย่อมๆ
โถงใหญ่ในส่วน Domestic เหมือนห้างขนาดย่อมๆ

ดูแผนผังอาคารสนามบินได้ที่ http://www.new-chitose-airport.jp/en/tmap/

พื้นที่ผู้โดยสารขาเข้า – ชั้น 3 ฝั่ง International

ที่นี่มีพื้นที่ให้คุณแต่งตัวแบบสบายๆ ทั้งตอนลงจากเครื่อง ก่อนจะไปผจญอากาศหนาวเย็นยะเยือกของฮอกไกโด และเปลี่ยนกลับเป็นชุดสบายๆสำหรับขึ้นเครื่องก่อนจะกลับ (ห้องแต่งตัวอยู่ชั้น 3 ผู้โดยสารขาเข้า) นอกจากนี้ยังมีบริการแมวดำรับส่งกระเป๋าถึงโรงแรมในเมืองหรือที่อื่นๆ ในญี่ปุ่นด้วยเลย หรือใครยังไมได้เช่า Pocket WiFi มาจากเมืองไทย ก็มีเคาน์เตอร์ให้เช่า ออกประตูผู้โดยสารขาออกมาอยู่ทางมือ ส่วนใครยังขาดความอบอุ่น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นแปะให้คลายกล้ามเนื้อ แผ่นแปะให้ร้อน สายคาดรองเท้าแบบมีตะปูกันลื่น (​Suberidome) ออกจาก ตม. แล้วจะเจอร้านสะดวกซื้อที่มีทุกอย่างที่ว่ามานี้เลย

ฝั่งผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 3 ของสนามบิน New Chitose พอรับกระเป๋าออกมากจะมีห้องให้เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวโดยเฉพาะ แยกชาย - หญิง อำนวยความสะดวกสำหรับเตรียมใส่ชุดกันหนาวก่อนออกจากสนามบิน
ฝั่งผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 3 ของสนามบิน New Chitose พอรับกระเป๋าออกมากจะมีห้องให้เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวโดยเฉพาะ แยกชาย – หญิง อำนวยความสะดวกสำหรับเตรียมใส่ชุดกันหนาวก่อนออกจากสนามบิน
ร้านสะดวกซื้อตรงโถงผู้โดยสารขาเข้า ใครลืมอุปกรณ์กันหนาวแวะมาหาได้
ร้านสะดวกซื้อตรงโถงผู้โดยสารขาเข้า ใครลืมอุปกรณ์กันหนาวแวะมาหาได้ ชั้น 3
เคาน์เตอร์เช่า WiFi อยู่ตรงนี้เหมือนกัน
เคาน์เตอร์เช่า WiFi อยู่ตรงนี้เหมือนกัน ชั้น 3

 

ร้านค้า / ร้านอาหาร – ชั้น 2/3 โซนในประเทศ (Domestic)

มีทั้งร้านอาหารสารพัดชาติ แหล่งรวมร้านราเมนดังทั่วฮอกไกโด (แบบเดียวกับที่ซัปโปโรและอาซาฮิกาวะ) ร้านขายอาหารทะเลสด แหล่งรวมร้านขนมหวานจากทั่วเกาะฮอกไกโด  ซึ่งมีมากจนเรียกได้ว่า “อุดมสมบูรณ์” ชนิดที่ไม่ต้องหิ้วขนมติดมือมาจากเมืองอื่นให้หนักเลย มาซื้อเอาใหม่ที่นี่ได้แทบทุกอย่าง

อาหารทะเล ขายกันในสนามบินเหมือนตลาดสดเลย
อาหารทะเล ขายกันในสนามบินเหมือนตลาดสดเลย – ชั้น 2 ฝั่ง Domestic
ขนมหวานก็มีจากทุกเมืองในฮอกไกโด ไม่ต้องแบกมาให้เมื่อย
ขนมหวานก็มีจากทุกเมืองในฮอกไกโด ไม่ต้องแบกมาให้เมื่อย – ชั้น 2 ฝั่ง Domestic

ร้านขายอาหารทะเลสด ขนมหวานร้านดังทั่วฮอกไกโด เสื้อผ้าเครื่องใช้สำหรับเดินทาง เช่นร้าน UniQlo ของฝาก ของที่ระลึก จะอยู่ที่ชั้น 2 ทางฝั่ง Domestic หรือในประเทศ (ซึ่งมีทางเลื่อนเชื่อมต่อกับฝั่ง International ใช้เวลาเดินราว 5 นาที หรือประมาณ 350 ม.) โดยแบ่งเป็น 2 ซีกไม่ให้กลิ่นปนกัน คือซีกหนึ่งขายอาหารทะเลแบบทำสำเร็จรูปและพัก ฝั่งนี้จะมีกลิ่นคาวพอสมควร อีกซีกเป็นแหล่งรวมร้านขนมดังสารพัดที่จากเมืองต่างๆ ทั่วฮอกไกโด แยกกลิ่นกันชัดเจนดี

รวมร้านราเมนดังทั่วฮอกไกโด - ชั้น 3 ฝั่ง Domestic New Chitose Airport
รวมร้านราเมนดังทั่วฮอกไกโด – ชั้น 3 ฝั่ง Domestic New Chitose Airport
ราเมงมีหลายเจ้า มีที่นั่งเพียบ
ราเมนมีหลายเจ้า มีที่นั่งเพียบ
Food Court ก็อยู่โซน Domestic เช่นกัน
Food Court ก็อยู่โซน Domestic เช่นกัน – ชั้น  3 ฝั่ง Domestic

นอกจากนี้ยังมีฟูดคอร์ท สำหรับมื้อง่ายๆ และแหล่งรวมร้านราเมนเกือบสิบแห่งจากทั่วฮอกไกโด อยู่ชั้นเดียวกัน คือ ชั้น 3

เคาน์เตอร์ที่ให้เอา voucher ไปแลกตั๋ว Hokkaido Rail Pass ได้อยู่ด้านในสุดทางซ้าย
เคาน์เตอร์ที่ให้เอา voucher ไปแลกตั๋ว Hokkaido Rail Pass ได้อยู่ด้านในสุดทางซ้าย – สถานี JR ชั้น B1

ส่วนชั้นใต้ดินของโซน Domestic (ลงลิฟต์ไปชั้นล่างสุด B1F) นี้จะเป็นสถานีรถไฟ JR New Chitose Airport station มีที่ให้เอา voucher ไปแลกตั๋ว Hokkaido Rail Pass ได้ (โต๊ะในสุดทางซ้าย ไม่ต้องไปต่อคิวที่เคาน์เตอร์)

โซนห้างสรรพสินค้า – ชั้น 4 ฝั่ง Domestic

ในโซนห้างสรรพสินค้า ฝั่ง Domestic ยังมีร้านขายสินค้า ของสะสม เสื้อผ้า เครื่องใช้ ฯลฯ มีแม้กระทั่งโรงภาพยนตร์ เรียกว่าใครที่ต้องใช้เวลารอต่อเครื่อง หรือรอรถบัสมารับไปยังรีสอร์ท หลายๆ ชั่วโมง สามารถมีอะไรทำฆ่าเวลาได้มากมาย นอกจากี้ยังมี พิพิธภัณฑ์การบิน ร้านขายของที่ระลึกสารพัดอย่าง ตั้งแต่ ร้านขายเครื่องบินจำลอง, ร้าน 100 เยน (Daiso), ร้าน Hello Kitty, ร้านกาแฟ Starbucks, ร้านขายยา และดาดฟ้าสำหรับชมวิวภายนอก (Observation Deck – ฤดูหนาวปิด)

ขายของสะสมทุกอย่างเกี่ยวกับการบิน
ขายของสะสมทุกอย่างเกี่ยวกับการบิน
ร้าน 100 เยน Daiso ก็มี
ร้าน 100 เยน Daiso ก็มี
ร้าน Kitty ก็ไม่พลาดมาดักอยู่
ร้าน Kitty ก็ไม่พลาดมาดักอยู่
Kitty ตัวโตถือแผนที่ฮอกไกโด
Kitty ตัวโตถือแผนที่ฮอกไกโด
ทางเข้าโรงหนัง (ชั้น 4)
ทางเข้าโรงหนัง (ชั้น 4)
ชั้น 4 มีสารพัดอย่าง
ชั้น 4 มีสารพัดอย่าง
พิพธภัณฑ์แสดงความเป็นมาของสนามบินนี้
พิพธภัณฑ์แสดงความเป็นมาของสนามบินนี้

โซนธีมปาร์ค – ชั้น 4 ทางเชื่อมระหว่าง Domestic กับ International

นอกจากร้านค้าต่างๆ แล้ว ที่น่าสนใจก็คือแหล่งท่องเที่ยวหรือธีมปาร์คหลายแห่ง ก็มาจัดทำแบบเล็กๆไว้ที่สนามบินด้วย เช่น

Doraemon Wakuwaku Sky Park

มีห้องจัดแสดงและกิจกรรมให้เด็กเล่นกับโดราเอมอน ที่นี่จะมีลักษณะแตกต่างไปจากที่ Doraemon Museum ที่เมืองคาวาซากิ ใกล้โตเกียวซึ่งอันนั้นจะเน้นที่ผลงานและเบื้องหลังการทำงานของอาจารย์ผู้วาด แต่ที่นี่จะเน้นให้เข้าไปเล่นในโลกจินตนาการและถ่ายรูปกับโดราเอมอนเป็นหลัก แต่ก็มีของที่ระลึกขายในลักษณะคล้ายกันด้วย

ทางเข้า Doraemon Wakuwaku Sky Park
ทางเข้า Doraemon Wakuwaku Sky Park
ที่นี่เน้นถ่ายภาพและเล่นสนุกกับตัวการ์ตูนต่างๆ ในเรื่อง
ที่นี่เน้นถ่ายภาพและเล่นสนุกกับตัวการ์ตูนต่างๆ ในเรื่อง
อาหารและขนมที่ขายก็เป็นลายโดราเอมอนด้วย
อาหารและขนมที่ขายก็เป็นลายโดราเอมอนด้วย

Royce Mini-chocolate factory

โรงงานทำช็อคโกแล็ตยี่ห้อ Royce ที่ดังสุดๆของฮอกไกโด มาตั้งไว้ที่นี่ เรียกคนดูตัดหน้าและแข่งกับโรงงานของ Ishiya (ที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ Shiori Koibito มากกว่า) ซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ใครๆก็ต้องแวะที่ชานเมืองซัปโปโรไปแล้ว โรงงานของ Royce  ที่นี่ถึงจะเล็กแต่ก็เดินเครื่องใช้งานจริงอยู่ และยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆจำหน่ายด้วย

โลกของช็อคโกแล็ต ยี่ห้อ Royce
โลกของช็อคโกแล็ต ยี่ห้อ Royce
โชว์เครื่องและสายการผลิตให้เห็นกันจะๆ (หลังกระจก)
โชว์เครื่องและสายการผลิตให้เห็นกันจะๆ (หลังกระจก)
โชว์กล่องช็อคโกแล็ตโบราณ
โชว์กล่องช็อคโกแล็ตโบราณ

Steiff Nature World สนับสนุนโดย Panasonic/Eneloop

แสดงและมีกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม สัตว์ป่า ตามธีมรักษ์โลกสีเขียว และอย่างเนียนๆ ก็ชักชวนให้ลดการใช้ถ่านไฟฉายแบบครั้งเดียวทิ้ง เปลี่ยนมาใช้แบบชาร์จได้ (ของ Eneloop) แทน

สวนสนุกแนวอนุรักษ์ (มีภาษาไทยด้วย!)
สวนสนุกแนวอนุรักษ์ (มีภาษาไทยด้วย!)
ขี่ช้าง กลางป่าใหญ่
ขี่ช้าง กลางป่าใหญ่
สปอนเซอร์ของธีมปาร์ค
สปอนเซอร์ของธีมปาร์ค

สนามบิน New Chitose Airport (CTS)

[info-t ]ตั้งแต่เช้าจนถึงไฟลท์สุดท้าย ประมาณ 6:20 – 23:00 น.
[info-f]ฟรี
[info-d]นั่งรถไฟจากสถานี JR Sapporo ประมาณ 40 นาที ลงสถานีสุดท้าย New Chitose ใต้อาคารสนามบินเลย ร้านค้าส่วนมากจะอยู่ชั้น 2 ร้านอาหาร / Food Court ชั้น 3 ทางฝั่ง Domestic ส่วน Theme Park ทั้งหลายจะอยู่ชั้น 4 ตรงทางเชื่อมระหว่างฝั่ง Domestic กับ International
[info-w] www.new-chitose-airport.jp/en
[info-g]42.787543, 141.679555

ข้อมูล เรื่อง และภาพ: DPlus Guide Team / วศิน เพิ่มทรัพย์

เปิดประสบการณ์สุดพิเศษเที่ยวฮอกไกโด MEMANBETSU-SAPPORO-SOUNKYO กับอบาคัสทราเวิล

ร่วมเปิดประสบการณ์สุดพิเศษบนเกาะฮอกไกโดกับอบาคัสทราเวิล แช่ออนเซน 2 คืน ทานเมนูขาปูยักษ์ ล่องเรือตัดนำแข็ง และชมเทศกาลแกะสลักหิมะน้ำแข็งโซอึนเคียว ใน วันที่ 10 – 15 กุมภาพันธ์ 2558

เพียงแค่จองและชำระเงินภายในวันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2558 พร้อมแจ้งว่า “ทราบข่าวจากทางเว็บ DPlus Guide (ดีพลัสไกด์)” ก็รับส่วนลด 1,000 บาททันที

Hyoubaku-Festival2-copy
เปิดประสบการณ์สุดพิเศษเที่ยวฮอกไกโด MEMANBETSU-SAPPORO-SOUNKYO กับอบาคัสทราเวิล

กำหนดการคร่าวๆ

คืนวันที่ 10/2/2015 ออกเดินทางจากกรุงเทพเวลา 23:45 น. บินไปลงสนามบิน Memanbetsu ทางตะวันออกสุดของฮอกไกโด ใกล้เมืองอะบาชิริ (ประหยัดเวลานั่งรถบัสจากซัปโปโรไป 5-6 ชั่วโมง)

วันที่ 11/2/2015  ถึงฮอกไกโด (สนามบินเมมันเบทสึ) เวลา 10:30 น. – เดินทางไป เมือง Abashiri  เทศกาลทะเลน้ำแข็ง Abashiri – เดินทางไป เมือง Kushiro – แวะชมหมู่บ้านนกกระเรียน – ถึงเมือง Kushiro เที่ยวชมอาคารตลาดปลา (Fisherman’s Wharf Moo และ Egg ที่เป็น Green House)

วันที่ 12/2/2015  เมือง Obihiro – ชมปราสาทไวน์ Ikeda – บ้านขนมหวาน Ryugetsu Sweetpie Garden – เมือง Sapporo  – ช้อปปิ้งย่าน Tanuki Koji

วันที่ 13/2/2015  เมือง Sapporo – ชมที่ทำการรัฐบาลเก่า – โรงงานช็อคโกแล็ต Ishiya (ยี่ห้อ Shiroi Koibito) ที่คนไทยรู้จักกันดีว่าเหมือนปราสาทเทพนิยาย – เมือง Asahikawa – แวะทานกลางวันที่หมู่บ้านราเมน – เมือง Sounkyo – ขึ้นรถกระเช้าชมยอดเขา Kurodake – ชมเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งโซอุนเคียว (Sounkyo Ice Waterfall Festival)

วันที่ 14/2/2015   เดินทางไป เมือง Abashiri – ลงเรือตัดน้ำแข็ง Aurora (ประมาณ 1 ชั่วโมง) – ช้อปปิ้งย่าน Komaba – เดินทางไปที่พัก เมือง Kawayu onsen (อยู่ระหว่างทะเลสาบ Kusharo และ Mashu)

วันที่ 15/2/2015  เดินทางไป สนามบิน Memanbetsu – บินกลับประเทศไทย ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 13:00 น.

Screenshot 2015-01-14 01.16.26

รายละเอียดการจอง HOKKAIDO-MEMANBETSU-SAPPORO-SOUNKYO กับอบาคัสทราเวิล คลิกที่นี่:

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ บ.อบาคัส ทราเวิล เซอร์วิส จำกัด โทร. 02-538-2287

เทศกาลฤดูหนาวเมือง Asahikawa (Asahikawa Winter Festival)

เทศกาลนี้จัดเป็นเทศกาลฤดูหนาวที่เก่าแก่และจัดต่อเนื่องกันมานาน และมีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากที่ซัปโปโร คือจัดมาแล้วกว่า 50 ปี  (ปี 2015 จะเป็นครั้งที่ 56) และมีผู้เข้ามาชมงานจำนวนมาก เรียกว่าใครที่เคยไปดู Snow Festival ของซัปโปโรแล้ว ปีต่อๆไปก็มักจะขยับมาดูที่นี่แทน เพราะใช้เวลาเดินทางเพียงนั่งรถไฟจากซัปโปโรอีกประมาณสองชั่วโมงเท่านั้น

เทศกาลฤดูหนาวริมแม่น้ำ Ishikari

เทศกาลฤดูหนาวที่นี่จากแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนแรกเป็นรูปปั้นหิมะและเวทีการแสดง จัดอยู่ริมแม่น้ำ Ishikari  เชิงสะพาน Asahibashi ซึ่งอยู่ทางเหนือของสวน Tokiwa สวนสาธารณะใหญ่ประจำเมือง ซึ่งถ้ามาในฤดูอื่นจะเห็นใบไม้เขียวๆ ดอกไม้หลากสี แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวในสวนก็จะขาวโพลนไปหมดจนไม่เห็นอะไร พื้นที่งานส่วนนี้ไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีทั้งเวทีใหญ่พร้อมระบบแสงลีเสียง เลเซอร์ รูปปั้นหิมะ รวมทั้งลานสำหรับสไลด์ลงจากที่สูง (พอๆกับโซน Tsudome ของซัปโปโรที่อยู่นอกเมือง) และยังมีการให้ปั้นตุ๊กตาหิมะแล้วแต่งหน้าตาให้สวยงาม นำไปตั้งเรียงรายเป็นแถวยาวเหยียด เพื่อเป็นสิริมงคลตามความเชื่อด้วย
เวทีใหญ่จะอลังการด้วยแสง สี เสียง
เวทีใหญ่จะอลังการด้วยแสง สี เสียง
สไลเดอร์ริมน้ำ
สไลเดอร์ริมน้ำ
รถไฟเล็กก็มีให้เล่น (ข้างหลังคือสะพาน Asahimaya bridge)
รถไฟเล็กก็มีให้เล่น (ข้างหลังคือสะพาน Asahimaya bridge)
รูปปั้นหิมะก็มี แต่ที่นี่รูปสลักน้ำแข็งน่าสนใจกว่า
รูปปั้นหิมะก็มี แต่ที่นี่รูปสลักน้ำแข็งน่าสนใจกว่า
เหล่าตุ๊กตาหิมะ
เหล่าตุ๊กตาหิมะ
ที่จัดงานอยู่ริมแม่น้ำ Ishikari ที่ยาวที่สุดในฮอกไกโด
ที่จัดงานอยู่ริมแม่น้ำ Ishikari ที่ยาวที่สุดในฮอกไกโด

การแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งนานาชาติ (World Ice Sculpture Competition)

นอกจากเทศกาลฤดูหนาวแล้ว ที่เป็นไฮไลท์ของงานอีกอย่างหนึ่งก็คือ การประกวดแกะสลักน้ำแข็ง ซึ่งมีทีมต่างๆจากทั่วโลกส่งผู้แข่งขันเข้ามา รวมทั้งจากเมืองไทยด้วย เป็นงานแกะสลักน้ำแข็งคล้ายกับที่ย่าน Susukino ของซัปโปโร แต่กินพื้นที่เยอะกว่ามาก โดยจัดขึ้นบนถนนคนเดิน Heiwa Dori ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งสายหลักของเมือง (อยู่กลางทางระหว่างสถานีรถไฟกับงานเทศกาลฤดูหนาวที่ริมแม่น้ำ ถ้าจะเดินทางระหว่างงานทั้งสองที่ แนะนำให้เรียกแท็กซี่ดีกว่า) การที่มีผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลกทำให้มีผลงานแกะสลักน้ำแข็งที่มีความหลากหลายกว่าของซัปโปโร (ซึ่งที่ซัปโปโร เฉพาะงานแกะสลักน้ำแข็งมักจะเป็นผลงานที่ธุรกิจในย่าน Susukino ลงทุนทำเพื่อโฆษณาเป็นส่วนมากเท่านั้น)
งานแกะสลักน้ำแข็ง จัดที่ถนนคนเดิน Heiwa Dori
งานแกะสลักน้ำแข็ง จัดที่ถนนคนเดิน Heiwa Dori
ฝีมือคนไทยที่ลงแข่งในปี 2014
ฝีมือคนไทยที่ลงแข่งในปี 2014

IMG_6438

เทศกาลฤดูหนาวเมือง Asahikawa (Asahikawa Winter Festival)
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
 .
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
 .
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
 .
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
 .
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
.
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
 .
IMG_6445
 .

เทศกาลฤดูหนาวเมือง Asahikawa

[info-t]ประมาณ 9:00 – 21:00 น. วันที่  6 – 11 กุมภาพันธ์ 2015
[info-f]ฟรี
[info-d]นั่งรถแท็กซี่ประมาณ​ 2 กม. จากสถานี JR Asahikawa ไปทางเหนือ (มีรถบัสรับส่งฟรีจากสถานี JR ในช่วงงาน)
[info-g]43.777772, 142.359280

ข้อมูล เรื่อง และภาพ: DPlus Guide Team / วศิน เพิ่มทรัพย์

เที่ยวฮอกไกโด นั่งรถไฟ Ryuhyo Norokko ชม Drift ice ไป Shiretoko แวะทะเลสาบหงส์ที่ Abashiri

กิจกรรมที่น่าสนใจในฤดูหนาวที่เมืองอะบาชิริ (Abashiri) ตะวันออกเฉียงเหนือไกลโพ้นของเกาะฮอกไกโด นอกจากจะลงเรือตัดน้ำแข็ง Aurora เที่ยวชมแพน้ำแข็งที่เกิดจากก้อนน้ำแข็งจำนวนมากไหลมากองรวมกัน (drifted ice) ที่ชายฝั่งบริเวณเมืองอะบาชิริแล้ว อีกทางเลือกหนึ่งในการชม drift ice ก็คือนั่งรถไฟขบวน Ryohyo Norokko ที่วิ่งเลียบชายฝั่ง จากสถานีอะบาชิริไปสุดที่สถานี Shiretoko Shari (สุดทางรถไฟ)

ซึ่งนอกจากจะมีทิวทัศน์งดงามแล้ว หลายๆช่วงที่วิ่งเลียบชายฝั่ง เราจะได้เห็นแพน้ำแข็งไหลจากฝั่งรัสเซียมาทับถมกันตามแนวชายฝั่งญี่ปุ่น มากน้อยแล้วแต่สภาพอากาศ ว่าจะเย็นจนทำให้แพน้ำแข็งคงสภาพไว้ได้นานแค่ไหนก่อนจะละลายหายไปในทะเล นอกจากนี้ในระหว่างทางสามารถแวะชมทะเลสาบที่หงส์จากไซบีเรียอพยพหนีหนาว มาอยู่ที่บริเวณนี้อีกด้วย

 

หัวขบวน Ryuho Norokko
หัวขบวน Ryuhyo Norokko (บางขบวนอาจต่างจากนี้)
โบกี้ไม้ หน้าต่างสูงสำหรับชมวิว
โบกี้ไม้ หน้าต่างสูงสำหรับชมวิว

 

รถไฟขบวนนี้ใช้ตูรถไฟโบราณ ซึ่งทำด้วยไม้และมีเตาผิงสำหรับใส่ถ่านหิน เพื่อจุดไฟให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว โดยมีไฟจากเตาผิงทะลุหลังคาเพื่อระบายควันออกไปด้านนอก ส่วนหน้าต่างที่เป็นบานไม้ สามารถเปิดเป็นมุมกว้างเพื่อชมวิวได้รอบทิศ บนรถไฟนี้จะมีการขายอาหารว่างและขนมด้วย ที่ขึ้นชื่อก็เช่น พุดดิ้งนมสด กับปลาหมึกย่าง ที่ต้องเอามาย่างเองกับตะแกรงที่เตาผิงในรถนั่นเอง

ขบวนรถไฟแบบนี้จะมีวันละ 2 เที่ยวคือช่วงเช้าและบ่าย โดยจะมีเฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น เวลาที่ใช้ขาไปประมาณ 50 นาที กลับอีกพอๆกัน ตลอดเส้นทางมีเพียง 8 สถานี โดยพอไปถึงปลายทางจะหยุดเพียงครู่เดียวก็วิ่งกลับเลย ดังนั้นหากจะแวะดูทะเลสาบหงส์ระหว่างทาง ก็ต้องรอรถไฟธรรมดาขบวนถัดไป ซึ่งแต่ละขบวนจะห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมง หรือเปลี่ยนเป็นแวะขากลับแทน

 

มีเตาผิงแบบใช้ถ่านหิน
มีเตาผิงแบบใช้ถ่านหิน
...แต่ตอนนี้ใช้ย่างปลาหมึกแทน
…แต่ตอนนี้ใช้ย่างปลาหมึกแทน
บรรยากาศในรถ
บรรยากาศในรถ
มีขายของกิน มีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายวิวข้างทางด้วยว่าถึงไหนแล้ว
มีขายของกิน มีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายวิวข้างทางด้วยว่าถึงไหนแล้ว
รถวิ่งเลียบทะเลเป็นส่วนใหญ่
รถวิ่งเลียบทะเลเป็นส่วนใหญ่
บางช่วงก็จะเห็นแผ่นน้ำแข็ง (drift ice) ลอยมาติดฝั่งแบบนี้
บางช่วงก็จะเห็นแผ่นน้ำแข็ง (drift ice) ลอยมาติดฝั่งแบบนี้

 

Shiretoko Shari สถานีสุดท้ายปลายทาง

ขบวนรถไฟพิเศษ Ryuhyo Norokko นี้ มีวันละ 2 เที่ยวเช้าและบ่ายเท่านั้น จะวิ่งไปสุดที่สถานี JR Shiretoko Shari (ที่ต้องตั้งชื่อยาวเพราะมีสถานีรถไฟชื่อ Shari ซ้ำกันหลายแห่งในญี่ปุ่น) ที่เมือง Shari ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ทางตะวันตกสุดของรถไฟสายอะบาชิริ Senmo Main Line รถไฟจะหยุดพักเพียงไม่กี่นาทีก่อนจะวิ่งกลับสถานี JR Abashiri (ส่วนที่เลยจากนั้นทางรถไฟจะวกลงใต้ไปยังเมือง Kushiro แทน) ดังนั้นใครจะนั่งขบวนพิเศษนี้ ก็ต้องซื้อตั๋วไปหนึ่งเที่ยว กลับอีกหนึ่งเที่ยว หรือถ้าจะแวะลงเดินเล่นที่สถานี Shiretoko Shari นานหน่อย ก็ต้องขึ้นขบวนรถไฟธรรมดากลับแทน

ในทางกลับกัน หากรถไฟขาไปเต็ม อาจขึ้นรถไฟธรรมดาจากสถานีอะบาชิริก่อน แล้วมาดักรอนั่งรถ Ryuhyo Norokko เฉพาะขากลับที่สถานีนี้ก็ได้ (ในฤดูหนาวบางวันขบวนอาจโดนจองเต็มได้ ถ้ามีโอกาสแนะนำให้จองที่นั่งล่วงหน้าไว้ก่อน) จากสถานี Shiretoko Shari นี้สามารถจะนั่งรถบัสต่อไปยังเมือง Utoro ที่อยู่ใกล้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะได้ แต่ต้องเช็กเวลาให้ดี เพราะถ้าเป็นหน้าหนาวอาจมีน้อยเที่ยว และระยะค่อนข้างไกลเกินกว่าจะเรียกแท็กซี่ (ประมาณ 40 กม.)

 

สถานี Kitahama และ Lake Tofutsu ทะเลสาบหงส์ขาว

ระหว่างทางจะมีจุดที่รถจอดค่อนข้างนาน คือที่ สถานี Kitahama ซึ่งอยู่ใกล้ทะเลโอคอทสก์ (Okhotsk Sea) ที่สุด เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถลงมาเดินชมวิวรอบสถานี หรือจะขึ้นไปบนหอคอยไม้ข้างทางที่สร้างไม่สูงนัก เพื่อชมวิวก้อนน้ำแข็งก็ได้

สถานี Kitahama ใกล้ทะเลที่สุด เป็นจุดแวะดูทะเลสาบหงส์ขาวด้วย
สถานี Kitahama ใกล้ทะเลที่สุด เป็นจุดแวะดูทะเลสาบหงส์ขาวด้วย
หอคอยชมวิวที่สถานี Kitahama
หอคอยชมวิวที่สถานี Kitahama

ที่สถานี Kitahama นี้ ตัวสถานีเล็กมากๆ (แต่ยังอุตส่าห์มีเคาน์เตอร์กาแฟเล็กๆน่ารัก) นอกจากรถจะจอดให้ลงมาเดินชมวิวนานหน่อยแล้ว ยังเป็นจุดแวะเพื่อจะไปชม ทะเลสาบ Tofutsu ซึ่งเฉพาะในฤดูหนาวจะมีฝูงหงส์ขาวอพยพจากไซบีเรีย มาหากินอยู่ที่ทะเลสาบนี้เป็นจำนวนมาก (ย้ำอีกทีว่าเฉพาะหน้าหนาวนะครับ ไปหน้าอื่นมีแต่วิวทะเลสาบเฉยๆ) จนมีการสร้างลานจอดรถ ศูนย์ข้อมูลและศาลานั่งพักของนักท่องเที่ยวจำนวนมากไว้ริมทะเลสาบ โดยเฉพาะตากล้องซูมยาวประเภทบ้องข้าวหลามทั้งหลายที่พากันมาปักหลักถ่ายรูปหงส์ขาวในบริเวณนี้ จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปที่สำคัญ

ทางเดินไปทะเลสาบหงส์ขาว มีป้ายอยู่อันเดียวเท่าที่เห็น
ทางเดินไปทะเลสาบหงส์ขาว มีป้ายอยู่อันเดียวเท่าที่เห็น
ถึงแล้ว จุดถ่ายรูปหงส์
ถึงแล้ว จุดถ่ายรูปหงส์
ตากล้องซูมยาวมารอกันตรึม
ตากล้องซูมยาวมารอกันตรึม

บริเวณจุดถ่ายรูปนี้จะต้องเดินจากสถานีไปประมาณ 15 – 20 นาที หรือราวเกือบ 1 กม. ดังนั้นถ้าใครจะแวะลง ที่ทะเลสาบนี้จะต้องเผื่อเวลาและดูตารางรถไฟให้ดี ถ้าจะให้ขึ้นทันรถไฟ (ธรรมดา) ขบวนถัดไปซึ่งห่างกันอาจจะประมาณชั่วโมงหนึ่ง หรือไม่ถึงหรือเกินกว่านั้นแล้วแต่ช่วงเวลา เช่นใช้เวลาเดินไปเดินกลับราวครึ่งชั่วโมง (อย่าลืมว่าหน้าหนาวหิมะตกทับถมกัน ทางเดินเท้าอาจค่อนข้างลื่น เดินเร็วหรือวิ่งไม่ได้ ต้องค่อยๆเดินเท่านั้น) มีเวลาถ่ายรูปประมาณครึ่งชั่วโมง อะไรทำนองนั้น แนะนำให้แวะตอนนั่งขบวนธรรมดา เช่นถ้าขาไปเราโดยสารขบวนชมวิว Ryuhyo Norokko อยู่แล้ว ก็อาจแวะขากลับแทน หรือถ้าขาไปนั่งขบวนธรรมดาเพื่อไปดักรอนั่งขบวน Ryuhyo Norokko ขากลับ ก็อาจเผื่อเวลามากหน่อยแล้วแวะทะเลสาบตอนขาไปเลย

หงส์มาเฉพาะหน้าหนาว
หงส์มาเฉพาะหน้าหนาว
ใครใคร่ถ่ายรูป ก็ถ่ายไป
ใครใคร่ถ่ายรูป ก็ถ่ายไป
หงส์ก็เล่นน้ำไป
หงส์ก็เล่นน้ำไป
ถ่ายกันจนแสงหมดถึงจะเลิก
ถ่ายกันจนแสงหมดถึงจะเลิก

ที่ร้านกาแฟตรงสถานีเค้าถ่ายเอกสารแผนที่ทางไปดูหงส์ไว้แจกเลย คงเบื่อที่จะต้องตอบคำถามเดิมๆ ของนักท่องเที่ยว เพราะมันไม่มีป้ายบอกทางอะไรที่เป็นป้ายถาวรเลย แถมสถานีก็เงียบมากจนเราไม่แน่ใจว่าลงถูกที่หรือเปล่า

เสียดายที่เรามีเวลาน้อยมาก ขาไปพอลงจากรถไฟ ถามหาแผนที่ได้ก็รีบเดินไป เพราะต้องกลับมาให้ทันรถไฟขบวนถัดไปในอีก 1 ชั่วโมง (ที่เกือบเป็นขบวนสุดท้าย) ตอนกลับก็รีบจ้ำมาขึ้นรถไฟ ร้านก็ปิดไปเสียก่อนเพราะลูกค้าคงหมดพอดี เลยไม่มีโอกาสแวะซื้อกาแฟเพื่อตอบแทน รีบจนเหนื่อยมาก แต่ก็คุ้มที่ได้เห็นฝูงหงส์ครับ เสียดายกล้องใหญ่ที่มีซูมเกิดแบตหมด (อาจเพราะโดนอากาศเย็นจัดหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ไปเที่ยวหน้าหนาวเผื่อแบตกล้องไว้หลายก้อนกว่าฤดูอื่นก็ดีนะครับ และต้องเก็บไว้กับตัวในที่อุ่นๆด้วย)

 

เที่ยวฮอกไกโด นั่งรถไฟ Ryuhyo Norokko ชม Drift ice ไป Shiretoko แวะทะเลสาบหงส์ที่ Abashiri
[info-t ]มีวิ่งเฉพาะฤดูหนาว วันละ 2 ขบวน (ดูตารางเวลาที่สถานี หรือแอพ Hyperdia หรือตามลิงค์ข้างล่าง)
[info-f]เที่ยวเดียว 840 เยน
[info-d]นั่งจากสถานี Abashiri ถึงสถานี Shiretoko Shari ใช้เวลาประมาณ 40 นาที)
[info-w] ดูตารางเวลาที่ http://www2.jrhokkaido.co.jp/global/english/ttable/07.pdf
[info-g]43.910925, 144.661649

ข้อมูล เรื่อง และภาพ: DPlus Guide Team / วศิน เพิ่มทรัพย์

หอบูชาฟ้าเทียนถาน มรดกโลกยิ่งใหญ่อลังการ แลนด์มาร์กเที่ยวปักกิ่งที่ไม่ควรพลาด

หอบูชาฟ้าเทียนถาน มรดกโลกยิ่งใหญ่อลังการ แลนด์มาร์กเที่ยวปักกิ่งสุดดัง

หอบูชาฟ้าเทียนถาน (Tian Tan Temple of Heaven Park – 天坛)

ถูกลงทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1998 หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในจีน สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง ค.ศ.1420 เป็นสถานที่ซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา เพื่อขอพรให้ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล

 

หอบูชาฟ้าเทียนถาน มรดกโลกยิ่งใหญ่อลังการ แลนด์มาร์กเที่ยวปักกิ่งสุดดัง

 

ภายในมีพื้นที่กว่า 1,668.75 ไร่ (ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้ามถึง 4 เท่า) อุดมไปด้วยต้นไป๋กว่า 4,000 ต้น อายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี

เที่ยวปักกิ่ง หอบูชาฟ้าเทียนถาน ประเทศจีน

เที่ยวปักกิ่ง หอบูชาฟ้าเทียนถาน ประเทศจีน

เมื่อเข้ามาภายในเราสังเกตได้ว่ามีกำแพงถึง 2 ชั้น ซึ่งกำแพง 2 ชั้นนี้ออกแบบตามความเชื่อว่า แผ่นฟ้าโค้ง ผืนดินเหลี่ยม และ ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ จึงทำให้กำแพงด้านทิศเหนือสูงกว่าด้านใต้และมีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลมส่วนด้านใต้จะต่ำกว่าและเป็นรูปเหลี่ยมมุมฉาก ซึ่งถูกเรียกว่า “กำแพงฟ้าดิน”

เดินมาไม่ไกลจากทางเข้าก็จะถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ 3 จุด โดยตำหนักและแท่นบูชาของที่นี่จะสร้างเรียงกันอยู่กลางสวนจากทิศเหนือลงทิศใต้ (ดังนั้นจะเข้าจากประตูไหน ก็สามารถเที่ยวได้ทั้งหมด) ประกอบด้วย

 

ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน หรือตำหนักสักการะ (ทางเหนือ)

หอบูชาฟ้าเทียนถาน มรดกโลกยิ่งใหญ่อลังการ แลนด์มาร์กเที่ยวปักกิ่งสุดดัง

ตำหนักที่โดดเด่น ยิ่งใหญ่ และสำคัญที่สุด (อยู่ทางเหนือสุดด้วย) เป็นสถานที่บวงสรวงสวรรค์ให้พืชพันธุ์ธัญญาหารในราชอาณาจักรมีความอุดมสมบูรณ์

สถาปัตยกรรมของตำหนักนี้จะใช้รูปทรงกลมเป็นต้นแบบ เนื่องจากความเชื่อว่า วงกลมหมายถึงโลกมนุษย์ สร้างเป็นแบบอาคารไม้ทรงกระบอกสูง 40 เมตร สร้างซ้อนกันขึ้นไป 3 ชั้น หลังคาลักษณะพิเศษที่ไม่มีคานไม้เลย มุงด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินเข้ม สีน้ำเงินเข้มของหลังคา มีความหมายว่าสวรรค์

ภายในอาคารมีเสากลางขนาดใหญ่ 4 ต้น เป็นตัวแทนของ 4 ฤดูกาล ภายนอกชั้นแรก จะมีเสา 12 ต้น เป็นตัวแทนของเดือนทั้ง 12 เดือน และ 12 ต้นอยู่ภายนอกสุด แทนความหมายของ 12 ชั่วยามในหนึ่งวันตามหน่วยเวลาของจีน ฝ้าเพดานจะเป็นรูปมังกร 9 ตัว ภายในตำหนักจะมีบัลลังก์มังกร และป้ายจารึกเทพบิดรผานกู่ตั้งอยู่

เที่ยวปักกิ่ง หอบูชาฟ้าเทียนถาน ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน

ระหว่างที่เดินจากตำหนักสักการะไปยังตำหนักเทพสถิต เราจะต้องเดินบน “สะพานตันปี้” ซึ่งเป็นทางเดินยาว 360 เมตร กว้าง 30 เมตร ความพิเศษของทางเดินนี้ คือ จะค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ จากฝั่งทิศใต้สูง 1 เมตร (ตำหนักเทพสถิต) สูงสุดที่ 3 เมตร ทางทิศเหนือ (ตำหนักสักการะ) เปรียบเสมือนว่ากำลังเดินขึ้นไปบนสรวงสวรรค์

 

ตำหนักหวงฉุงหยีว์ หรือตำหนักเทพสถิต (ตรงกลาง)

ตำหนักหวงฉุงหยีว์ หรือตำหนักเทพสถิต เที่ยวปักกิ่ง หอบูชาฟ้าเทียนถาน ประเทศจีน

เป็นอาคารรูปทรงกลม สร้างเมื่อ ค.ศ.2073 ในสมัยของจักรพรรดิเจียจิ้งแห่งราชวงศ์หมิง ทำด้วยไม้ทั้งหลัง แต่ผนังโค้งด้านหลังก่อด้วยอิฐ หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีน้ำเงิน มีความสูงประมาณ 19 เมตร ล้อมด้วยกำแพงทรงกลม ซึ่งกำแพงนี้มีความพิเศษคือสามารถสะท้อนเสียงไปอีกฝั่งหนึ่งของกำแพง

ตำหนักหวงฉุงหยีว์ หรือตำหนักเทพสถิต เที่ยวปักกิ่ง หอบูชาฟ้าเทียนถาน ประเทศจีน

ชื่อเรียกตำหนักเทพสถิตมาจากการที่ใช้ตำหนักแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานแผ่นป้ายของเทพเจ้าต่างๆ ที่ใช้ในการสักการะบวงสรวงฟ้าหรือสวรรค์ ภายในหอตั้งป้ายชื่อเทพเจ้าฟ้าดิน พระอาทิตย์และพระจันทร์ ใช้ในพิธีบวงสรวงขององค์จักรพรรดิ

 

หยวนซิวถาน หรือแท่นบวงสรวงฟ้า (ทางใต้)

หยวนซิวถาน หรือแท่นบวงสรวงฟ้า หอบูชาฟ้าเทียนถาน ประเทศจีน

เป็นแท่นบวงสรวงที่มีลักษณะเป็นเนินรูปวงกลม ประกอบด้วยฐาน 3 ชั้น (แทนมนุษย์ โลก และสวรรค์) สูง 5 เมตร สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาว ล้อมด้วยรั้วแกะสลักเป็นลวดลายเมฆและมังกร บนฐานชั้นบนสุดของแท่นบวงสรวงฟ้า จะมี “เทียนซินสือ” หรือ “หินใจกลางสวรรค์” จุดนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาก ซึ่งความพิเศษของหินก้อนนี้ คือ เมื่อเราพูดด้วยเสียงเบาๆ จะได้ยินเสียงสะท้อนกลับมาให้ได้ยินทันที ซึ่งมีความหมายว่า เมื่อจักรพรรดิได้สั่งให้ประชาชนทำอะไร ทุกคนต้องทำทันที มิฉะนั้นก็จะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนเจตนาแห่งสวรรค์ เพราะเชื่อกันว่า จักรพรรดิเป็นโอรสสวรรค์นั่นเอง

หยวนซิวถาน หรือแท่นบวงสรวงฟ้า หอบูชาฟ้าเทียนถาน ประเทศจีน
เตาเผากระเบื้องเคลือบสีเขียว
เตาเผาสักการะอดีต 8 ฮ่องเต้ หยวนซิวถาน หรือแท่นบวงสรวงฟ้า หอบูชาฟ้าเทียนถาน ประเทศจีน
เตาเผาสักการะอดีต 8 ฮ่องเต้

ในบริเวณนี้เราจะสังเกตเห็นเตาเผาสร้างด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียว ซึ่งเตานี้เอาไว้เผาเครื่องบูชาในการทำพิธีสักการะบวงสรวง และข้างๆ เตาเผาสีเขียว จะมีเตาเผาเหล็ก เรียงกัน 8 เตา ซึ่งใช้เป็นที่เผาเครื่องบูชาในการสักการะอดีต 8 องค์จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ชิง

 

หอบูชาฟ้าเทียนถาน
[info-t]ทุกวัน 08:00-17:30 น.
[info-f]30 หยวน
[info-d]MTR Line 5 สถานี Tiantandongmen ทางออก A1
[info-g]39.883133,116.412721

เรื่องและภาพ : DPlus Guide Team

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)

เที่ยวญี่ปุ่น ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) เมืองนาโงะ (Nago) เกาะโอกินาวา (Okinawa) สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 โดยผู้ใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด เป็นหนึ่งในปราสาทเก่าแก่ของหัวเมืองทางเหนือที่เรียกว่า Hokuzan ซึ่งมีกษัตริย์ปกครองอยู่จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1416 ได้ถูกกองทัพของกษัตริย์ Sho Hashi บุกเข้ายึดและผนวกให้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลริวกิว ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) จึงได้กลายเป็นตัวแทนของราชวงศ์ Sho ดูแลเรื่องการปกครองและการค้าขายทางด้านเหนือของเกาะ

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)

 

ปราสาทนาคิจิน เกาะโอกินาวา ถูกทำลายจากกองบุกของกองทัพ Satsuma ในปี ค.ศ. 1609 ตัวอาคารหลักต่างๆ ที่เป็นไม้ถูกเผาทำลายจนไม่เหลือซาก คงเหลือแต่เพียงตัวกำแพงและเสาที่ทำด้วยหินบางส่วนเท่านั้น ระหว่างทางเดินขึ้นสู่ป้อมกำแพงจะต้องผ่านดงต้นซากุระป่าที่ปลูกเรียงรายเต็มสองข้างทาง ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ซากุระจะพากันเบ่งบานสวยงามมาก

ด้านบนของป้อมปราสาท Nakijin จะมีลักษณะคล้ายกับ Gusuku (ซากปราสาทริวกิว) ที่อื่นๆ ของเกาะ คือเหลือแต่แนวกำแพงที่ทอดยาวไปบนสันเขา ส่วนโครงสร้างหลักนั้นพังเสียหายไปจนหมดแล้วแต่ก็ยังหลงเหลือซากของสิ่งก่อสร้างบางอย่างให้ได้เห็นอยู่ เราสามารถปีนขึ้นมาบนแนวกำแพงหินเพื่อชมวิวทิวทัศน์ของเมืองจากด้านบนได้

 

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)
เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)

เทศกาลชมดอกซากุระที่ ปราสาทนาคิจิน โอกินาวา ปี พ.ศ. 2558 นี้ จัดขึ้นในวันที่ 17 ม.ค. 58 – 1 ก.พ. 58 เรียกได้ว่าเป็นสถานที่เริ่มต้นเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น เพราะซากุระที่ญี่ปุ่นจะค่อยๆ เริ่มบานตั้งแต่เมืองตอนใต้จากโอกินาว่า (Okinawa) ไปทางเมืองตอนเหนือซัปโปโร (Sapporo)

ที่เทศกาลนี้สามารถชมความงามของซากรุะได้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืนซึ่งจะมีการประดับไฟ นอกจากนี้ยังมีการแสดงงานสินค้าทำมือและอาหารท้องถิ่นให้ได้ช้อปและชิมอีกด้วย

 

เที่ยวเทศกาลชมดอกซากุระญี่ปุ่น ที่ปราสาทนาคิจิน (Nakijin) โอกินาวา (Okinawa)
[info-t”8:00-18:00 น. ทุกวัน (ช่วงเวลาเปิดไฟประดับในเทศกาลชมดอกซากุระ 18:00-21:00 (เข้าได้ถึงเวลา: 20:30)”]
[info-f”ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 300 เยน เด็กตํ่ากว่า 6 ขวบ เข้าฟรี  “]
[info-d”นั่งรถเมล์สาย 111 จากสถานีขนส่ง Naha Bus Terminal (Highway Bus) ลงป้าย Nago Bus Terminal (名護バスターミナル) ใช้เวลา 93 นาที ค่าโดยสาร 2,100 เยน จากนั้นต่อรถเมล์สาย 66 ลงป้าย NAKIJIN JOSEKI Entrance. ใช้เวลา 45 นาที เดินต่ออีก 15 นาที”]
[info-w””]http://nakijinjo.jp/english
[info-g”26.691474,127.928998″]

[codespacing_progress_map]

ข้อมูลจาก : หนังสือโอกินาวา
เรื่องและภาพ: ตะวัน พันธ์แก้ว

พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano

เที่ยวฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่เมือง Kamifurano มีพิพิธภัณฑ์แสดงภาพเขียนของคุณ Sumio Goto ศิลปินดังระดับชาติของญี่ปุ่น (ถ้าเป็นเมืองไทยเราคงเทียบเคียงกับศิลปินแห่งชาติ อะไรประมาณนั้น) ที่เขียนภาพสีน้ำที่ผสมกับวัสดุพิเศษ ซึ่งมีตั้งแต่หินสี เปลือกหอยมุก ปะการัง แผ่นทอง และอื่นๆ อีกมาก บดเป็นชิ้นเล็กๆ ที่มีขนาดแตกต่างกัน ผสมกับกาวพิเศษก่อนจะนำมาใช้เขียนภาพดูเผินๆ คล้ายกับภาพแบบโบราณ แต่จริงแล้วมีมิติและความลึกแบบภาพจริงสมัยปัจจุบัน ไม่ได้ออกแบนๆ สองมิติเหมือนภาพยุคเก่า

พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano

พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano

พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano

 

คุณลุง Sumio Goto ปัจจุบันอายุกว่า 80 ปีแล้ว แต่เท่าที่เห็นในภาพยังกระฉับกระเฉง มีไฟในการสร้างสรรค์ผลงานอยู่อย่างเดิม ท่านมักตระเวณไปวาดรูปในที่ต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ทั้งเมืองเก่า เช่น เกียวโต นารา ขึ้นกับว่าจะชมชอบไปปักหลักทำงานอยู่ที่แถบไหน เมืองไหน ซึ่งในเวลาที่มาฮอกไกโดท่านก็จะมาปักหลักทำงานอยู่ที่เมือง Kamifurano นี่เอง โดยเปิดเป็นสตูดิโอขึ้นที่นี่ในปี 1987 ต่อมาจึงได้ปรับปรุงสถานที่นี้เองมาเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นแทน ชั้นล่างเป็นห้องแสดงภาพ ส่วนชั้นบนเป็นร้านอาหารและห้องชมวิวที่หันหน้าเข้าหาภูเขา Tokachidake พอดี
พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano
ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ มองจากด้านนอก (ภาพจากเว็บ www.gotosumiomuseum.com)
พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano
วิวท้องทุ่งนาและภูเขา Tokachidake ที่เห็นได้จากด้านหน้าพิพิธภัณฑ์

 

พิพิธภัณฑ์มีหลายห้อง จัดแสดงภาพเขียนแต่ละแนวต่างกัน ภาพเขียนส่วนใหญ่เป็นแนวธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่นเอง ที่เก็บเอาความประทับใจของฤดูต่างๆ หรือทิวทัศน์ในต่างประเทศที่ได้ไปเยือนไปเห็นมาเช่น เมืองจีน ภาพก็จะออกแนวจีนๆ ผสมญี่ปุ่น (บรรยายไม่ถูก แต่สวยทีเดียว) บางภาพก็ใหญ่ขนาดติดเต็มฝาผนังห้อง ซึ่งจากภาพเบื้องหลังการทำงาน ตอนเขียนคุณลุงต้องปีนไปนอนบนสะพานพิเศษที่ทำคร่อมภาพเพื่อให้เอื้อมไปเขียนถึงตรงกลางภาพได้ก็มี

พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano

พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano
พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano

 

โดยรวมๆ แล้วเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้เวลาดูเพลินๆ ได้สักครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง แล้วแต่ว่าจะดื่มด่ำกับภาพเขียนแนวนี้แค่ไหนครับ แต่ต้องยอมรับว่าสวยแปลกตากว่าภาพเขียนแบบญี่ปุ่นที่เคยเห็นมาจริงๆ

หมายเหตุ : ปกติแล้วไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพในพิพิธภัณฑ์นี้นะครับ ที่ถ่ายมาให้ชมกันนี้คือขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษในฐานะสื่อครับ
 .

พิพิธภัณฑ์ Sumio Goto ภาพเขียนศิลปะร่วมสมัยระดับชาติที่ Kamifurano
[info-t ]9:00 – 17:00 (พฤศจิกายน – มีนาคม ปิดแค่ 16:00)
[info-f]ผู้ใหญ่ 1,000 เยน (กลุ่ม 10 คนขึ้นไป คนละ 800 เยน)    เด็ก 500 เยน (กลุ่ม 10 คนขึ้นไป คนละ 400 เยน)
[info-d]นั่งรถแท็กซี่ประมาณ​ 3 กม. จากสถานี JR Kamifurano ไปทางทิศตะวันออก
[info-w] http://www.gotosumiomuseum.com/lang_el/index.html
[info-g]43.452801, 142.492747

ข้อมูล เรื่อง และภาพ: DPlus Guide Team / วศิน เพิ่มทรัพย์

เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)

เที่ยวญี่ปุ่น ชมซากุระที่ Ikoigamori Park

ที่เมืองบิเอ (Biei) กลางเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) ที่นี่มีเทศกาลชมดอกซากุระเช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ อีกหลายที่ทั่วญี่ปุ่น และเนื่องจากฮอกไกโดมีอากาศที่หนาวเย็น จากฤดูหนาวกว่าจะอุ่นขึ้นจนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ก็ย่างเข้าเดือนพฤษภาคม ดังนั้นเทศกาลชมซากุระที่นี่จึงล่าช้ากว่าที่เกาะอื่นของญี่ปุ่นไปราวๆ หนึ่งเดือน

แต่ถึงซากุระจะบานช้าก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้คน เพราะใครๆ ที่พลาดจากการชมซากุระในเดือนเมษายนก็มักจะหาโอกาสมาฮอกไกโดแทนกันทั้งนั้น ยิ่งกว่านั้น ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นวันหยุดยาวของทางญี่ปุ่น ที่เรียกว่าช่วง “Golden Week” ยิ่งทำให้ทวีความครึกครื้น ดังนั้นหากไปเที่ยวช่วงดังกล่าว ก็จะต้องพบกับกองทัพนักท่องเที่ยวคนญี่ปุ่นเองจำนวนไม่ใช่น้อยเลย

เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)
ปิคนิคกลางแดด
เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)
เนื้อกระทะสไตล์เจงกิสข่าน

เทศกาลของเมืองบิเอจัดขึ้นที่สวน Ikoigamori Park ซึ่งอยู่บนเนินเขาชานเมืองทางใต้ สวนนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก และจำนวนต้นซากุระก็ไม่ถึงกับมากมาย แต่หากใครมีโอกาสแวะมาที่บิเอในช่วงดังกล่าวก็น่าจะแวะมาเดินเล่น ชมซากุระ ดูการแสดงดนตรีบนเวที ทานอาหารกลางวัน ทั้งเนื้อและแกะย่างในกะทะสไตล์เจงกิสข่าน (และก็ทานกันแบบปิกนิกกลางแดดจริงๆ ด้วย! เพราะชาวเมืองเค้าออกจะตื่นเต้นกับแสงแดด หลังจากฤดูหนาวอันยาวนานถึงราวๆ ห้าเดือนเพิ่งจะผ่านพ้นไป) ก็จัดว่าเป็นจุดน่าแวะที่หนึ่ง

เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)

เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)
เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)
เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)
เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)
เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)

นอกจากนี้การที่สวนนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สูงกว่าตัวเมืองและห่างออกมาพอสมควร จึงมีมุมถ่ายรูปเมืองบิเอ ให้เห็นมีภูเขาเป็นฉากหลังด้วย

เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park ที่เมืองบิเอ (Biei)

เทศกาลชมซากุระในสวน Ikoigamori Park
[info-t ]มีซากุระให้ชมประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤษภาคม
[info-f]ฟรี
[info-d]เดินหรือนั่งรถแท็กซี่ประมาณ​ 1.5 กม. จากสถานี JR Biei ข้ามแม่น้ำลงมาทางใต้เดินหรือนั่งรถแท็กซี่ประมาณ​ 1.5 กม. จากสถานี JR Biei ข้ามแม่น้ำลงมาทางใต้

[info-g]43.581634, 142.457647

ข้อมูล เรื่อง และภาพ: วศิน เพิ่มทรัพย์ DPlus Guide Team

เที่ยวฮอกไกโด เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory

ชีสแบบต่างๆ

เที่ยวฮอกไกโด เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory

เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
ด้านหน้าโรงงาน Furano Cheese Factory

เมืองฟุระโนะได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ของเกาะฮอกไกโด มีการเลี้ยงวัวนมกันมาก จึงไม่น่าแปลกใจถ้าจะมีโรงงานทำชีสสารพัดแบบ แต่ที่น่าสนใจคือ ที่ Furano Cheese Factory นี้ นอกจากนักท่องเที่ยวจะสามารถชมชิมและซื้อผลิตภัณฑ์จากนมและชีสชนิดต่างๆ กลับบ้านได้แล้ว ที่นี่ยังเปิดโอกาสให้ทดลองทำชีสกันสดๆ จากน้ำนมอีกด้วย ซึ่งทำไม่ยากและก็ใช้เวลาไม่นานด้วย ส่วนทำแล้วจะกินได้หรือไม่ได้งานนี้ก็ฝีมือตัวเองละ โทษใครไม่ได้แล้วนะครับ ;-(

เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
ห้องเวิร์กช็อปทำชีส
เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
เครื่องมือในการทำชีส
เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
ขั้นตอนการทำ Mascapone Cheese

เริ่มต้นเวิร์กช็อป ก็ต้องล้างมือให้สะอาด ผูกผ้ากันเปื้อนสักหน่อย หากผิดคิวขึ้นมาจะได้ไม่เลอะชุด (ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรเลอะขนาดนั้น แต่คงทำเพื่อให้เข้าบรรยากาศและมาตรฐานความสะอาดมากกว่า) แล้วก็ฟังคำอธิบายขั้นตอนจากเจ้าหน้าที่

ขั้นตอนคร่าวๆก็คือ เริ่มจากการเอาน้ำนมสดมาอุ่นให้ร้อน ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยาในการแปรรูปจากนมเป็นชีสเข้าไป คนซ้ำไปมาสักพักจนได้ที่ ใส่เกลือเพื่อปรุงรส แล้วก็นำไปแช่ให้เย็นลง ขณะเดียวกันก็ให้ลองเขียนเพนท์ลายภาชนะที่จะนำมาบรรจุไปด้วย อันนี้ขึ้นกับหัวศิลปะของใครของมัน มีปากกกาเมจิกหลากสีให้ละเลงเล่นได้

เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
อุ่นนมสดให้ร้อน ใส่หัวเชื้อแล้วคนไปเรื่อยๆ จนได้ที่
เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
กรองด้วยผ้าขาวบาง
เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
คั้นหางน้ำนมใสๆออก ให้เหลือแต่ส่วนที่เป็นชีสข้นๆ
เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
บรรจุใส่ถ้วยที่เขียนลายเตรียมไว้

ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็เป็นตามรูปละครับ รสชาติไม่เลวทีเดียว ได้เป็นชีสสดเต็มถ้วย แถมใส่ตู้เย็นเก็บไว้ทานได้หลายวัน (จริงๆ แล้วมันไม่เหลือรอดไปถึงวันสุดท้ายของทริปเสียด้วยซ้ำ เพราะลงท้องไปหมดเสียก่อน :-) ใครที่แวะไปโรงงานชีสที่ฟุระโนะแล้วพอมีเวลาก็แวะลองดูกันได้นะครับ รอบหนึ่งใช้เวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น  แต่อาจต้องจองล่วงหน้าในบางช่วงหากนักท่องเที่ยวเยอะ

 

คอร์ส Workshop สอนการเมนูต่างๆ ที่ Furano Cheese Factory
คอร์ส เวลา ค่าธรรมเนียม เงื่อนไข
เนย (Butter) รอบเช้า 9:15 น., 10:15 น., 11:15 น.,
รอบบ่าย 13:15 น., 14:15 น., 15:15 น.
700 เยน คอร์สสามารถเริ่มได้ด้วยผู้เข้าร่วมคนเดียว
ไอศครีม (Ice cream) รอบเช้า 9:15 น., 10:15 น., 11:15 น.,
รอบบ่าย 13:15 น., 14:15 น., 15:15 น.
700 เยน ต้องมีผู้เข้าร่วมจำนวน 4 คนจึงจะเริ่มคอร์สได้
ชีส (Cheese) รอบเช้า 9:30 น., 11:00 น.,
รอบบ่าย 13:30 น., 15:00 น.
880 เยน คอร์สสามารถเริ่มได้ด้วยผู้เข้าร่วมคนเดียว
ขนมปัง (Bread) รอบเช้า 10:00 น.,
รอบบ่าย 13:30 น.
880 เยน เริ่มคอร์สได้เมื่อมีผู้เข้าร่วม 2 คนขึ้นไป,
ต้องจองล่วงหน้าอย่างต่ำ 3 วัน
ช่วงเดือนพ.ย. – มี.ค. จะไม่เปิดคอร์สรอบ 15:15 น.

 

เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory    เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory

เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory  เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory

นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันยังมีโรงงานทำไอศครีม และร้านพิซซ่าแบบดั้งเดิมที่ใช้การอบด้วยเตาถ่านหอมกรุ่น เครื่องปรุงไม่ต้องพิสดารมากมาย แต่บรรยากาศสบายๆ จะเป็นในร้านหรือโซนระเบียง (รับแดดอ่อนๆ อีกแล้วครับงานนี้) ก็ช่วยให้เจริญอาหารได้ไม่น้อยทีเดียว

เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory     เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory

เตาอบพิซซ่าร้อนๆ
เตาอบพิซซ่าร้อนๆ
เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
น่าทาน…
เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
ไอศครีมรสต่างๆ
เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
ไอศครีมรสแปลกๆ อย่างฟักทองก็มีนะ

เที่ยวฮอกไกโด เวิร์กช็อปชีสทำมือที่ Furano Cheese Factory
[info-t ]9.00 – 17.00 น. (พฤศจิกายนถึงมีนาคม ปิดเร็วขึ้นเป็น 16:00 น. ส่วนวันที่ 31 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม ปิดทำการ)
[info-f]ฟรี  (ไม่รวมค่าอุปกรณ์เวิร์กช็อป)
[info-d]ประมาณ​ 3.5 กม. จากเมืองฟุระโนะไปทางใต้ ในฤดูร้อนมีรถบัสวิ่งวน (loop bus) ให้บริการ
[info-w] www.furano-cheese.jp
[info-g]43.320685, 142.377091

ข้อมูล เรื่อง และภาพ: วศิน เพิ่มทรัพย์ DPlus Guide Team